หลังจากที่ทางเชฟโรเลตได้นำโซนิค 4 ประตูมาสู่ตลาดเมืองไทย หลังจากนั้นก็มีรุ่น 5 ประตูตามมา โดยเกียร์อัตโนมัติซึ่งเป็นรุ่นแอลที ราคา 632,000 บาท ซึ่งรถรุ่นนี้จะมีหน้าตาไม่ต่างจากรุ่น 4 ประตู โดยมีจุดเด่นเรื่องเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวแบบแอโร่ไดนามิก ใช้โคมไฟหน้าไม่มีแผ่นปิดสไตล์บิ๊กไบค์เพื่อสื่อถึงความสนุกสนานในการขับขี่
การออกแบบภายนอกจะทำให้โซนิคดูกว้าง แต่ตัวไม่โตจนเกินไป โคมไฟหน้าสีดำสลับแผงสะท้อนอัญมนีทำให้โซนิคดูโดดเด่นมากขึ้น ด้วยเส้นสายที่ลู่ลมทำให้โซนิคดูสปอร์ต ให้สมรรถนะในการขับขี่แบบรถยุโรป กระจกหน้ารถถูกออกแบบให้มีระดับพื้นผิวต่ำกว่าหลังคาเล็กน้อยเพื่อความลู่ลมและช่วยให้ใบปัดน้ำฝนทำงานได้เต็มที่จากแรงต้านทานลมที่น้อยลง ขอบด้านบนของกระจกก็ใช้เทคนิคการติดตั้งแบบพิเศษสำหรับช่วยลดเสียงลมลอดเข้าสู่ห้องโดยสาร
เข้าไปข้างในจะเห็นสไตล์ดูอัลค็อกพิทที่เชฟโรเลตนำมาใช้เพื่อความเป็นสปอร์ต สำหรับมาตรวัดจะใช้เป็นแบบลอยตัว ไม่ฝังยึดเข้าไปในแผงคอนโซลทำให้การออกแบบฉีกไปจากเดิมได้ มาตรวัดรอบจะใช้เป็นขอบกลม ส่วนมาตรวัดความเร็วจะเป็นแบบสี่เหลี่ยมบอกความเร็วเป็นตัวเลขดิจิตอลขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเจน พร้อมข้อมูลประมวลผลอัตราสิ้นเปลืองมาให้พร้อม
เบาะนั่งของโซนิคจะให้ความนุ่มมากว่ารถในระดับเดียวกันออกแบบให้กระชับพอดี ใช้วัสดุถักทอคุณภาพสูง มีการตัดเย็บที่พิถีพิถันทนทานและดูหรูหรา ซึ่งในห้องโดยสารจะมีความเงียบทำให้เสียงเพลงจากแผ่นซีดีในเครื่องเล่นจะได้เสียงที่คมชัด
สำหรับโซนิคยังคงยึดมั่นกับเครื่องยนต์ 1.4 ลิตรเช่นเดิม เสียดายที่ยังไม่มีโอกาสได้ใช้เครื่องยนต์ตัวแรงอย่าง 1.4 ลิตรเทอร์โบ ถึงจะเป็นเครื่องยนต์ 1.4 ลิตรเหมือนอาวีโอ แต่ความรู้สึกนั้นเปลี่ยนไปจากอัตราเร่งที่ทำได้เร็วกว่า เป็นผลมาจากการใช้ระบบแคมชาร์ฟแปรผันต่อเนื่องสำหรับสมรรถนะและความประหยัดที่มากกว่า โดยปรับปรุงหัวฉีดให้ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับไอดีเพื่อควบคุมการจ่ายเชื้อเพลงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
จากเดิมอาวีโออัตราเร่งจะมาช้าทำให้อัตราบริโภค่อนข้างสูง แต่โซนิคทำได้รวดเร็วขึ้น กำลัง 100 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 130 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ถูกถ่ายทอดลงล้อคู่หน้าผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด อัตราเร่งทำได้อย่างต่อเนื่องดีกว่าอาวีโอเยอะ ที่สำคัญคือรอบเครื่องยนต์ต่ำลง มีการเปลี่ยนเกียร์ที่ราบเรียบต่อเนื่องแทบจะไม่เห็นกำลังที่ตกลงไปช่วงเปลี่ยนเกียร์ รอบเครื่องยนต์ 2500 รอบ่อนาที ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. เป็นผลมาจากการออกแบบเกียร์ 1 ให้มีอัตราทดเกียร์ต่ำและกว้างเพื่อช่วยเพิ่มอัตราเร่งช่วงออกตัว ส่วนเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์มีอัตราทดสูง พื่อลดรอบเครื่องยนต์ช่วงเดินทางไกล ทำให้อัตราบริโภคเฉลี่ยอยู่ที่ 12 กม.เศษๆ
ส่วนรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีดจะมีอัตราเร่งดีขึ้น ต่างจากอาวีโอเกียร์ธรรมดาที่ต้องรักษาความเร็วให้เกิน 100 กม./ชม.เอาไว้ หากต่ำกว่านั้นจะไม่มีกำลัง ต้องลดเกียร์ลงช่วยจนถึงเกียร์ 3 แล้วรักษาความเร็วเอาไว้ช่วง 120 กม./ชม. จะดีที่สุด ต่างจากโซนิคที่สามารถเรียกกำลังออกมาได้ทุกเกียร์ ในเกียร์ 5 เองถ้ารอบไม่ต่ำจนเกินไปยังสามารถเร่งแซงได้ โดยไม่ต้องลดเกียร์ลงช่วย รอบเครื่องยนต์จะสูงกว่าเกียร์ออโตที่ความเร็ว 105 กม./ชม. จะอยู่ที่ 3,000 รอบต่อนาที