มาสด้า บีที 50 โปรเผยโฉมที่ออสเตรเลียเมื่อปลายปี 53 แต่กว่าจะผลิตออกมาขายในเมืองไทยได้ก็ถึงต้นปี 55แล้ว การปรับเปลี่ยนของรถกระบะจากมาสด้าครั้งนี้มีความแตกต่างไปจากค่ายอื่นๆ เพื่อสร้างเอกลักษณ์เป็นของตัวเองโดยไม่ต้องเดินตามใคร หากทำเหมือนๆ ชาวบ้านแน่นอนการขึ้นสู่เบอร์ต้นๆ คงจะยากเพราะต้องเจอด่านหินอย่างโตโยต้าและอีซูซุ ไม่นับคู่แฝดที่คลอดออกจากโรงงานเดียวกันอย่างฟอร์ดด้วย ทำให้แรกเห็นก็รู้ว่าใช่เลยนี่แหละคือความแตกต่าง ด้านหน้าบ่งบอกถึงดีเอ็นเออารมณ์ดีมีหน้าตาคล้ายกับรถหลายรุ่นของมาสด้า ให้ความรู้สึกรถเก๋งมากกว่ารถกระบะ พร้อมกับโป่งล้อที่นูนออกมารับกับล้อและยางที่ใหญ่ขึ้น
บีที 50 โปร ถูกออกแบบโดยมุ่งหวังให้เป็นรถคันเดียวรับใช้ได้ทั้งครอบครัว จึงได้รถลูกผสมที่มีหน้าตาแบบรถเก๋ง ภายในสะดวกสบายแบบรถเอสยูวี ช่วงล่างนุ่มและมีพื้นที่บรรทุกเยอะแบบรถกระบะ ชดเชยกับตัวถังเล็กในรุ่นก่อนหน้า มาคราวนี้มาสด้าจึงยืดตัวถังให้ยาวที่สุดในบรรดารถกระบะระดับเดียวกัน ทำให้ใส่รายละเอียดได้เต็มที่ทั้งรูปทรงและพื้นผิว
ภายในรถสี่ประตูของมาสด้า บีที 50 โปร ถูกออกแบบให้เหมือนกับรถยนต์นั่ง มีคอนโซลหน้ารูปทรงแบบไม่สมมาตร เป็นมุมเปิดกว้างสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและเป็นมุมแคบโอบกระชับล้อมรอบผู้ขับขี่
ห้องโดยสารกว้างขวางมีพื้นที่ใช้สอยเหมือนรถยนต์นั่ง ได้เบาะที่โอบกระชับสปอร์ต ใช้สีภายในโทนดำตัดด้วยสีน้ำเงิน มีหัวเกียร์ที่เล็กกะทัดรัดจัดท่านั่งให้เหมาะสมด้วยการปรับความสูงของเบาะ
เครื่องยนต์แถวเรียง 4 สูบ 2,198 ซีซี. DOHC 16 วาล์ว มีเทอร์โบแปรผันอัดอากาศลดอุณหภูมิของไอดีด้วยอินเตอร์คูลเลอร์ติดตั้งไว้ด้านหน้ารับลมได้เต็ม ๆให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
หากเส้นทางเรียบ ๆ การรักษารอบเครื่องยนต์ให้มากกว่า 1,000 รอบขึ้นไป อัตราเร่งก็เรียกมาได้อย่างต่อเนื่อง พอถึงทางขึ้นลงภูเขาจะต้องเลี้ยงรอบเครื่องยนต์ให้ไม่ต่ำกว่า 2,500 รอบ ไม่งั้นรอบจะตกลงเยอะจนต้องลดเกียร์ช่วยการเร่งแซงทำได้รวดเร็ว นั่งสบายจากช่วงล่างที่ปรับให้นุ่มแบบรถเก๋ง