คำต่อท้ายของ 520 d ก็คือ ทัวริ่ง สปอร์ต นั่นก็หมายถึงการได้มากกว่ารถใช้งานเพื่อการเดินทางทั่วๆไป แต่จะได้ความเป็นสปอร์ตทัวร์ริ่งเพิ่มเข้ามาที่จะช่วยให้มีความแตกต่างไปจากรุ่นซีดานยอดนิยม ความเป็นสปอร์ตที่เพิ่มเข้ามาสำหรับความเป็นสปอร์ตทัวริ่ง ด้วยชุดแต่งสปอร์ตจากเอ็ม รวมไปถึงล้ออัลลอยด์ก้านคู่ของเอ็มขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางรันแฟลตเพื่อความปลอดภัยเวลาเดินทางไกล สามารถเดินทางไปต่อถึงที่หมายได้เมื่อยางรั่ว
เปิดตัวตั้งแต่ปลายปี2009สำหรับซีรี่ย์ 5 โฉมนี้ที่เดินทางมาถึงเจนเนอเรชั่นที่ 6 เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายในการออกแบบของ คริส แบงเกิล ด้วย หน้าตาถูกปรับเปลี่ยนมีการขยายสัญลักษณ์ไตคู่ให้กว้างขึ้น ใช้โคมไฟหน้าทรงเพรียวยาว มีเส้นสายข้างตัวถังชัดเจน มิติตัวถังถูกขยายให้ใหญ่ขึ้นเป็นการสร้างความแตกต่างเมื่อ BMW เลือกไปใช้แพลทฟอร์มของซีรี่ย์ 7 และซีรี่ย์ 6 เปิดประทุน แทนที่จะเป็นซีรี่ย์ 5
ฉีกกฎเกณฑ์ของความเรียบง่ายในรถเดินทางและเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับรถแวน เพื่อเป็นทางเลือกที่แตกต่างไปจากความหรูหราบนถนนของรถซีดาน มีความกะทัดรัดกว่าพวกรถลุยทั้งหลายแหล่ จึงได้รถทัวริ่งที่มีสีสันกับชุดแต่งสปอร์ตของเอ็ม ได้ความอเนกประสงค์ ไม่ทิ้งความหรูหรา มีสมรรถนะในการตอบสนองของเครื่องยนต์และความประหยัดไม่ต่างไปจากรถซีดาน
การตกแต่งภายในไม่หนีไปจากรถซีดาน ด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีให้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นแผงคอนโซล คันเกียร์ พวงมาลัย จอและปุ่มควบคุม ไอ-ไดรฟ์ เป็นการบ่งบอกตัวตนของความเป็นซีรี่ย์ 5 อย่างชัดเจน
สิ่งที่ต่างออกไปก็คือเส้นหลังคาที่ยาวตรงไปจรดด้านหลังไม่หักลงแบบรถซีดาน จึงเพิ่มความโปร่งโล่ง สำหรับคนนั่งด้านหลัง รวมไปถึงพื้นที่จัดเก็บสัมภาระเพิ่มเข้ามา โดยไม่ต้องไปติดตั้งอุปกรณ์บรรทุกบนหลังคาให้เกะกะ
สะดวกสบายกับฝาท้ายที่เปิด –ปิดด้วยไฟฟ้า แยกเปิด – ปิดกระจกบนฝาท้ายด้วยรีโมทเมื่อต้องการขนย้ายอุปกรณ์ขนาดไม่ใหญ่นักโดยไม่ต้องเปิดฝาท้ายให้เสียเวลา
เมื่อมีสัมภาระชิ้นยาวๆ เบาะนั่งที่ถูกจัดวางสำหรับ 5 ที่นั่งก็สามารถปรับได้ โดยเบาะหลังสามารถพับแยกแบบ 40 – 20 – 40 ช่วยให้การเดินทางพักผ่อนในวันหยุดสามารถสนุกได้กับชีวิตกลางแจ้งได้เต็มที่
เครื่องยนต์แอดวานซ์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร ถูกผลิตจากอลูมิเนียมน้ำหนักเบามาพร้อมกับเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผันและฉีดน้ำมันด้วยหัวฉีดแม่เหล็กไฟฟ้าที่สามารถสร้างแรงบิดได้สูงถึง 380 นิวตัน-เมตร ที่รอบต่ำเพียง 1,900-2,750 รอบ/นาที กำลังสูงสุด 184 แรงม้าถูกส่งผ่านล้อคู่หลังด้วยการจัดการของเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เราจึงได้เห็นการเดินทางด้วยรอบเครื่องยนต์ต่ำๆ ที่ด้ความประหยัดมากขึ้น มีความต่อเนื่องในการเปลี่ยนเกียร์โดยไม่สูญเสียกำลังไปเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ถึงจะไม่ใหญ่แต่ก็เพียงพอสำหรับการเดินทางของรถแวนคันนี้ อัตราเร่งอาจจะไม่ทันอกทันใจเหมือนตอนอยู่กับซีรี่ย์ 3 แต่ก็ไม่ทำให้เสียอารมณ์ยามต้องแบกตัวถังใหญ่ๆ แบบนี้ พอออกตัวไปได้แล้วอัตราเร่งก็ถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่องตลอดการเดินทาง
ระบบกันสะเทือนถูกปรับให้ด้านหน้าใช้แบบ ดูอัล – บอล จอยท์ ชอร์ท – ลอง อาร์ม มีความยาวปีกนกต่างกันเพื่อความนุ่ม มีการเกาะถนนที่ดีจากยางหน้าสัมผัสเต็มพื้นถนน ด้านหลังเป็นมัลติลิงค์ ความเร็วสูงๆ เมื่อกระแสลมพัดผ่านกันชนหน้าอย่างรวดเร็วบวกกับน้ำหนักกดท้ายที่เพิ่มขึ้นทำให้การทรงตัวไม่นิ่งเท่าตัวซีดาน ซึ่งเป็นความแตกต่างระหว่างรถใช้งานทั่วไปกับรถที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้ชีวิตให้เต็มที่