ค่ายโปรตอนเน้นขนาดรถที่มีคนนิยมใช้กันมาก ไม่สนใจรถตัวถังใหญ่ๆ ที่มีคนใช้น้อย เรียกว่าทำรถราคาถูกให้คนมาเลเซียได้ใช้ อย่างที่แพงที่สุดของรถ 4 ประตู ก็จะเป็น พรีเว่ ซึ่งเปิดตัวหลังสุด รุ่นแพงที่สุด ซีวีที ซีเอฟอี ราคาขายในเมืองไทย 759,000 บาทเท่านั้นเอง
ตลาดของพรีเว่ อยู่ในระดับเดียวกันกับอัลติสหรือซีวิค โดยเน้นที่เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตรเป็นหลัก มีให้เลือก 2 ความแรงคือ 80 กิโลวัตต์ จากเครื่องยนต์แคมโปร ไอเอเอฟเอ็มพลัส ความจุ 1,597 ซีซี อีกรุ่นก็จะเป็น 103 กิโลวัตต์ จากเครื่องยนต์ แคมโปร ซีเอฟอี
การมุ่งหวังให้โปรตอนผงาดในตลาดโลกได้ จึงมีโครงการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ P3-21A เพื่อทำตลาดรถยนต์ในระดับคอมแพ็ค ด้วยการให้สำนักออกแบบรถยนต์ของอิตาลีมาร่วมงานด้วยจนได้พรีเว่ ออกมานอกจากจะขายในประเทศมาเลเซียแล้ว รถยนต์ประจำชาติอย่างโปรตอนก็เน้นส่งออกด้วย การติดตั้งก้านสวิตซ์ยกเลี้ยว กับปัดน้ำฝนจะอยู่ตรงข้ามกับบ้านเรา อีกทั้งยังอยู่ห่างปลายนิ้วอีกต่างหาก
รูปโฉมของพรีเว่ ยังคงเน้นเอกลักษณ์ของความเป็นโปรตอนให้เห็นอย่างชัดเจน การออกแบบตัวถังเน้นหลักอากาศพลศาสตร์หลังคาลาดลงด้านหลังแบบรถคูเป้ หากดูราคาของพรีเว่ไม่ต่างจากรถซับคอมแพ็คในกลุ่มของซิติ้ วีออส แต่พอดูขนาดตัวถังนั้นใหญ่กว่าราคาขายเยอะ เป็นกลุ่มของรถคอมแพ็คที่มีอัลติสเป็นผู้นำอยู่ ถ้าทำตลาดในมาเลเซียอาจจะกันคู่แข่งได้สบาย แต่สำหรับเมืองไทยยังต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
เข้าไปนั่งในรถได้เจอกับเบาะนั่งกว้างๆ ประเภทคนตัวใหญ่ ไขมันเยอะ นั่งได้สบายโดยไม่รู้สึกถึงความอึดอัดจากการบีบของปีกเบาะ แต่หุ่นคนไทยมาตรฐานจะรู้สึกว่าเบาะกว้างไปหน่อย ยิ่งเจอกับเครื่องยนต์แรงๆ ก็อยากจะได้ปีกเบาะที่บีบเข้ามาให้กระชับมากกว่านี้
เหมาะกับเมืองฝนในการอออกแบบเบาะหลังที่สามารถพับได้นอกจากจะช่วยเพิ่มเนื้อที่บรรทุกสัมภาระที่มีความยาวแล้ว ช่วงฝนตกก็ไม่ต้องลงจากรถเพื่อไปหยิบสัมภาระแค่พับพนักพิงเบาะลงมาแบบ 60:40 ก็หยิบของออกมาได้แล้ว
กุญแจรีโมทปกติใช้การเสียบฝังไปทั้งลูกแบบ BMW แล้วใช้กดปุ่มสตาร์ทที่อยู่ทางขวาของพวงมาลัย แต่ช่วงกดเพื่อนำลูกกุญแจออกต้องระวังมันจะกระเด้งไปไกลระบบปรับอากาศที่ใช้ในพรีเว่ ไม่ต้องกังวลเมื่อมีแดดจัด การกระจายความเย็นทำได้ทั่วถึง ได้อากาศที่เย็นฉ่ำทำให้ขับนานๆ ไม่เครียด มีระบบนำทางมาให้จากจอทัชสกีน รวมถึงการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สมัยใหม่ได้อย่างสะดวก การควบคุมเครื่องเสียงได้จากปุ่มบนพวงมาลัย การบังคับควบคุมรถทำได้ดีพอสมควร จะมีบ้างที่ไม่สบายใจก็คือ แป้นเบรก กับคันเร่ง อยู่ใกล้กัน เวลาจะเหยียบเบรกจะต้องบิดปลายเท้า ทำให้ตอนเบรกจะเผลอไปบิดคันเร่งด้วย หากใส่รองเท้าคู่ใหญ่ๆ ถ้าย้ายแป้นเบรกและคันเร่งออกไปทางขวาอีกก็คงจะดีไม่น้อย
ถึงจะเป็นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร แต่ก็ทำให้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร อายได้เพราะได้พ่วงระบบอัดอากาศเข้าไป โดยอาศัยเทอร์โบลูกเล็กของ Borg Warner ส่งผลให้ความเร็วไต่ได้ถึง 210 กม./ชม. ที่ 5,500 รอบได้ก็แล้วกันเครื่องยนต์ชุดนี้ประทับใจมาตั้งแต่เพอโซน่าแล้วแรงแต่ไม่ซดน้ำมัน ในพรีเว่ เช่นกันเครื่องยนต์แคมโปร ซีเอฟอี ขนาด 1,561 ซีซี จะให้กำลังสูงสุด 103 กิโลวัตต์ ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตัน-เมตร ที่ให้ใช้ตั้งแต่ 2,000 – 4,000 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ซีวีที ที่ทำความเร็วไล่ตามรอบเครื่องยนต์อย่างใกล้ชิด มีบ้างก็ตอนรอบสูงๆ ที่รอบจะมาเร็วหน่อย แต่ช่วงความเร็วใช้งานความรู้สึกไม่ต่างจากเกียร์ออโตทั่วๆไป รอบเครื่องยนต์ 2,100 รอบ/นาที ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ลองเดินทางด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. จะได้ตัวเลข 13 กว่าๆ กม./ลิตร เมื่อลองทำความเร็วระดับ 160 กม./ชม. ดูเป็นระยะๆ ตัวเลขก็จะลดลงมาเรื่อยๆ แถวๆ 12 กม./ลิตร ไม่ธรรมดาสำหรับรถติดเทอร์โบ ระบบเบรกยังขาดความเฉียบคมต้องกดหนักๆถึงจะเอาอยู่ ช่วงล่างยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของโปรตอนเอาไว้ได้ หลังจากให้โลตัสช่วยปรับ