สำหรับรถนิสสันมาร์ชรุ่นนี้เป็นรถที่มีการปรับเปลี่ยนโฉมแบบ ไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งเปิดตัวในช่วงงานมอเตอร์โชว์ปี56ทำให้นิสสันครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์สำหรับตลาดอีโคคาร์ตอนนั้น นิสสัน มาร์ชรุ่นนี้ จะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพิ่มมาให้ ทั้งความสะดวกสบายที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงทำให้มาร์ชต่างไปจากเดิมเยอะ โดยเฉพาะด้านหน้าจะมีกระจังหน้าใหม่ทรงวีเชฟ ซึ่งรับกับกันชนหน้าที่มีช่องรับลมขนาดใหญ่ ไฟหน้าถูกปรับเปลี่ยนใหม่
รวมถึงไฟท้ายที่ใช้หลอดแอลอีดีแทนที่จะเป็นหลอดไส้แบบเก่า บนหลังคาก็มีสปอยเลอร์หลังติดตั้งเอาไว้ เพิ่มความสวยงามด้วยไฟเบรกดวงที่3เป็นหลอดแอลอีดี กันชนหลังถูกปรับเปลี่ยน ได้เส้นสายที่คมชัดมากขึ้น ที่เพิ่มเข้ามาก็จะเป็นไฟตัดหมอกช่วยเพิ่มการมองเห็นในช่วงเดินทางที่มีฝนตกหรือต้องขับฝ่าสายหมอกที่เกิดขึ้นบ่อยๆตามต่างจังหวัด
ถึงจะเป็นรถเล็กแต่อุปกรณ์ความปลอดภัยมีมาให้ครบครัน ทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้าที่มีมาให้ทุกรุ่น ซึ่งจะพองตัวอัตโนมัติสำหรับดูดซับแรงปะทะจากด้านหน้าช่วยลดการบาดเจ็บของผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า จะทำงานควบคู่กับเข็มขัดนิรภัยที่คอยเหนี่ยวรั้งให้ยึดกับเบาะเวลาเกิดการชน โครงสร้างตัวถังเป็นแบบโซนบอดี้ คอนเซ็ปต์ที่สามารถรองรับและลดแรงกระแทกจากการชน รวมถึงกระจายแรงกระแทกที่ประตูด้านข้าง โครงสร้างของเบาะจะใช้พนักพิงทำจากโครงสร้างแผ่นเหล็ก ช่วยรองรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้ดีกว่า
สะดวกกับการใช้งานเมื่อพกกุญแจและอิมโมบิไลเซอร์ติดกับตัวก็สามารถกดปุ่มสตาร์ทได้เลย ไม่ต้องเสียบกุญแจให้เสียเวลา รวมถึงความสะดวกในการถอยจอดก็มีเซ็นต์เซอร์กะระยะถอยหลัง 4 จุดมาให้ ส่วนกระจกมองข้างจะพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ เมื่อเข้าไปนั่งในห้องโดยสารจะได้เบาะนั่งกว้างๆ อาจจะสั้นนิดหน่อยและมีพื้นที่ว่างระหว่างเบาะเหลือน้อย แต่ก็ได้ความสบายของเบาะช่วยลดจุดด้อยได้ ขณะที่เบาะหลังก็มีพื้นที่วางขาเพียงพอรวมถึงพื้นที่จัดเก็บสัมภาระที่จะขยายเพิ่มพื้นที่ได้โดยการพับเบาะลงมา
แผงคอนโซลออกแบบให้โค้งเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็น ปุ่มควบคุมจะถูกจัดรวมจุดไว้ตรงกลาง ส่วนระบบปรับอากาศอัตโนมัติก็มีปุ่มควบคุมในโซนวงกลมเพื่อสะดวกในการใช้งาน มีไฟโชว์เพื่อการมองเห็นที่ชัดเจน ใต้ช่องแอร์จะมีเครื่องเสียงที่ออกแบบมาให้เป็นพิเศษ มีช่องเชื่อมต่อยูเอสบี ซึ่งเล่นได้ทั้งซีดีและเอ็มพี 3 มีช่องเชื่อมต่อ Aux-in มาให้สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง ใช้การควบคุมปุ่มบนพวงมาลัยสำหรับความสะดวกในการใช้งานข้อมูลในการเดินทาง จะโชว์อยู่ตรงกลางของมาตรวัดซึ่งจะใช้ปุ่มกดทางด้านขวาของแผงคอนโซลเพื่อดูข้อมูลแสดงผลต่างๆ ทำให้ได้มีข้อมูลที่ละเอียดในเรื่องของอัตราบริโภคที่ใช้ทั้งในขณะนั้นซึ่งแสดงเป็นกราฟและอัตราบริโภคเฉลี่ย
การเดินทางไม่มีปัญหาสำหรับความเร็วระดับ 100 กม./ชม. ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำๆ ระดับ 2,500 รอบ ที่มีความเร็วระดับนี้ ด้วยเครื่องยนต์กระบอกสูบใหญ่ HR 120 E 3 สูบ เรียง DOHC 12 วาล์ว พร้อมระบบ CVTC เรียกกำลังมาใช้ได้ดีในระดับหนึ่ง อัตราเร่งสำหรับเครื่องยนต์ 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ซีวีทีนั้นไม่มีปัญหา ใช้แค่ตำแหน่งดีก็สามารถใช้การเดินทางหรือเร่งแซงได้