อาร์-คลาส เป็นรถที่รวบรวมเอาจุดเด่นของรถหลายๆรุ่นเข้าไว้ด้วยกัน กับตัวถังที่ไม่สูงกว่ารถซีดานมากนัก ได้ภายในห้องโดยสารที่อเนกประสงค์กับเบาะนั่ง 3 แถว 6 ที่นั่งปรับเปลี่ยนรูปแบบได้และมีใต้กันชนหลังยกสูงคล้ายๆกับพวกรถลุย รวมไปถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ให้การเกาะถนนที่หนึบกว่าพวกขับสอง
ตัวถังของอาร์-คลาสจะยาวแบบพวกเอส –คลาส ด้านหลังจะมีไฟเดย์-ไทม์หลอดแอลอีดีมาให้ กระจังหน้า 3 เส้นมีโลโก้ดาว 3 แฉกติดไว้ตรงกลาง กันชนหน้าจะมีไฟล่างไม่สูงนัก เวลาขับรถผ่านเนินหรือลงจากลานจอดรถต้องระวังหน่อย โคมไฟหน้ามีการหยักด้านล่างซึ่งเป็นไฟซีนอน โดยอาร์-คลาส จะเข้ามาขายในปี55มี 2 แบบให้เลือกคือ แฟมิลี่ 7 ที่นั่ง ค่าตัว 5,899,000 บาทและรุ่นเอ็กซ์คลูซีฟ 6 ที่นั่ง ราคา 6,449,000 บาท ซึ่งไฟหน้าของตัวแฟมิลี่จะเป็นไฟฮาโลเจนทั่วๆ ไป
กระจกมองข้างขนาดพอๆกับรถเก๋ง มีไฟเลี้ยวหลอดแอลอีดีติดมาให้ เป็นการออกแบบให้ดูทันสมัยมากขึ้น ขณะที่ไฟท้ายจะเป็นหลอดแอลอีดีเรียงตัวเป็นแนวนอน ใต้กันชนจะมีแผ่นปิดพร้อมกับยกสูงขึ้น ทำให้ผ่านอุปสรรคได้ง่ายขึ้นอีกทั้งยังรีดลมออกจากใต้ท้องรถเร็วขึ้น รูปทรงกุญแจของอาร์ 300 จะอนุรักษ์นิยมคล้ายๆกับรุ่นอื่น เป็นกุญแจรีโมทที่ควบคุมด้วยคลื่นวิทยุและอินฟาเรดใช้เสียบเข้าช่องแล้วบิดสตาร์ท ปลอดภัยกว่าไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครขึ้นไปนั่งขับแทน
แผงคอนโซลออกแบบมาให้ดูมีสไตล์ ไม่ใช่แบบเรียบๆ แต่จะมีการไล่แต่ละระดับบนสุดจะยื่นออกมาคล้ายๆกับบังแดด ตรงกลางโค้งนูนออกมาแล้วเว้าหลบ แผงควบคุมโดยจะมีช่องแอร์ติดตั้งเอาไว้ในส่วนนี้ล่างสุดจะเป็นชุดแผงควบคุมอัดแน่นไปด้วยปุ่มต่างๆ รวมไปถึงฝาเปิดช่องเก็บของจะอยู่ในส่วนนี้ ตรงกลางจะมีหน้าระบบ COMAND APS ที่จะแสดงผลและควบคุมการทำงานของวิทยุ บนแผงคอนโซลจะเสริมด้วยแผ่นอลูมิเนียมให้ดูมีสีสันมากขึ้นเมื่อตัดกับสีดำของแผงคอนโซล
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระพร้อมควบคุมอัตโนมัติ สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง รวมถึงการปรับเพิ่มความแรงของลมสำหรับผู้โดยสารแถวกลางได้ โดยอุณหภูมิจะปรับไปที่ 22 องศาโดยอัตโนมัติ ที่ไม่ชอบระบบปรับอากาศของรถยุโรป ก็คือ การตัดระบบหมุนวนอากาศออกไปโดยอัตโนมัติ อย่างเมืองหนาวท้องฟ้าโปร่งอากาศสดใส การได้อากาศเข้ามาในรถเป็นเรื่องที่ดี แต่เมืองไทยเจอทั้งฝุ่นควันดันมีรถบรรทุกจอดอยู่ด้านหน้าอีก ควันเหม็นๆ จึงเข้ามาในห้องโดยสารได้
เบาะหนังขนาดใหญ่ ใช้การปรับด้วยไฟฟ้าทั้งคู่เพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมในการนั่ง พวงมาลัยวงใหญ่ 4 ก้านแบบเอ็มแอล มีปุ่มควบคุมติดเอาไว้เพื่อความสะดวกในการควบคุม
แผงมาตรวัดจอกลมตัดขอบด้วยโครเมี่ยม มีทริปบอกไว้ตรงกลาง พร้อมข้อมูลต่างๆโดยเฉพาะอัตราบริโภคจะมองเห็นได้เด่นชัด การปรับเช็ตก็ใช้การกดปุ่มที่อยู่ด้านบนใช้งานง่ายและสะดวก ตำแหน่งเกียร์อยู่ที่ก้านตรงคอพวงมาลัย โดยการย้ายก้านปัดน้ำฝนไปอยู่ทางด้านซ้ายแทนโดยจะไปรวมชุดอยู่กับก้านยกเลี้ยว คันโยกเกียร์ใช้งานง่ายยกขึ้นถอยหลัง ดันลงเดินหน้า เกียร์ว่างอยู่กลาง ส่วนตำแหน่งที่ใช้ การกดปุ่มตรงปลายเกียร์
ความสะดวกสบายในห้องโดยสารจะได้เบาะนั่ง 3 แถว วางเบาะเป็นคู่ๆ กลางเบาะหน้าจะมีช่องใส่ของไล่ไปจนถึงแนวเบาะที่จะมีกล่องขนาดใหญ่ ใช้ฝาปิดเป็นที่วางแขน ด้านหลังเป็นชุดควบคุมเครื่องปรับอากาศด้านหลังที่ติดมาให้ เบาะแถว2 จะแยกอิสระมีที่วางแขนมาให้
ส่วนเบาะแถว 3 จะเป็นเบาะที่มีพนักพิงศีรษะมาให้พร้อมสามารถพับแยกด้วย การพับเบาะนั่งก่อนแล้วจึงพับพนักพิงตามก็จะได้พื้นที่โล่งๆ สำหรับวางสัมภาระได้ ขาเบาะถูกยึดไว้อย่างแน่นหนาปลอดภัยเมื่อมีอุบัติเหตุด้วยถุงลมนิรภัยรอบตัวช่วยลดอันตรายให้น้อยลงพร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ
เวลาสตาร์ทจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังหน่อย เพราะนี่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 6 สูบ วางรูปตัว วี ความจุ 2987 ซีซี ให้กำลังสูงถึง 190 แรงม้า ที่ 4000 รอบต่อนาที มีแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตรที่ 1400-2800 รอบต่อนาทีระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ทำให้รอบเครื่องยนต์ต่ำ ความเร็ว 100 กม./ชม. ใช้รอบเครื่องยนต์ 1600 รอบต่อนาที ส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 4 สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง210 กม./ชม. อัตราบริโภคอยู่แถว ๆ 10 กม./ลิตร พอได้สำหรับรถตัวถังใหญ่ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบนี้ การเกาะถนนทำได้อย่างมั่นใจ มีระบบความปลอดภัยมาให้ครบครัน สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์ตรงพวงมาลัยได้
อัตราเร่งแบบไปเรื่อยๆ เมื่อวางเท้าธรรมดา แต่พอเพิ่มน้ำหนักเท้าลงไป อัตราเร่งจะมาเร็วขึ้นไม่ถึงกระชากแต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจหากปล่อยกำลังออกมาเร็วแบบหลังติดเบาะ วัยรุ่นอาจจะชอบ แต่ผู้โดยสารอาจมีการเมารถได้ แต่ถ้ามาช้าเกินไปคนนั่งสบายก็ไม่สบอารมณ์โก๋ อัตราเร่งของ อาร์ 300 จึงมาต่อเนื่องแบบไม่กระชากได้ความพอใจทั้งคนขับ และผู้โดยสาร