ถือว่าประสบความสำเร็จสำหรับซูซูกิในการผลิตรถอีโคคาร์ เพราะสามารถแข่งกับค่ายอื่นๆ ได้ โดยสวิฟท์ เริ่มประกอบเมื่อเดือนมีนาคมปี 55 ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติหลังจากนั้น ซูซูกิได้ปล่อยสวิฟท์เกียร์ธรรมดาเพิ่มเข้ามาอีก โดยตั้งราคาตัวต่ำสุดไว้ที่ 429,000 บาท ส่วนรุ่นท็อปอยู่ที่ 469,000 บาท
ความร้อนแรงของสวิฟท์รุ่นนี้มาจากการนำรถอีโคคาร์ในระดับเดียวกับพวกแจ๊ซหรือยาริส มาขายในตลาดอีโคคาร์จึงได้ตัวรถที่มีขนาดใหญ่กว่า เห็นได้จากความยาว 3,850 มม. กว้าง 1,695 มม. มีฐานล้อยาว 2,490 มม. ซึ่งมีช่วงล้อหน้ากว้าง 1,490 มม.และล้อหลัง 1,495 มม. แต่มีน้ำหนักไม่ถึงตัน
ถึงจะเป็นอีโคคาร์ที่มีราคาต่ำ แต่สวิฟท์เกียร์ธรรมดาก็ยังให้ของที่มากเกินราคา เมื่อเข้าไปนั่งในรถจะได้เบาะนั่งที่กระชับ พวงมาลัยสามารถปรับดึงเข้าหาตัวหรือยกขึ้นลงได้สำหรับรุ่นจีแอล รวมถึงปุ่มกดสตาร์ทที่มีมาให้พร้อมจะมีที่ขัดอกขัดใจก็อยู่ที่มีถุงลมนิรภัยมาให้แทนที่จะเป็นเบรกเอบีเอสที่ใช้งานได้บ่อยกว่า โดยเฉพาะเบรกตอนถนนเปียกๆ เป็นการปกป้องก่อนการชน แทนที่จะปกป้องตอนชนแบบถุงลมนิรภัย
เบาะนั่งด้านหลังสามารถปรับพับได้ หลังเบาะจะเป็นหลุมลึกๆ สำหรับการเก็บสัมภาระอาจจะไม่กว้างมาก แต่เมื่อมีสัมภาระใหญ่ๆ ก็ใช้พับเบาะช่วยก็พอแก้ขัดได้
อารมณ์ในการขับขี่สนุกกว่าเกียร์อัตโนมัติเยอะ ให้ความรู้สึกไม่แตกต่างไปจากพวกเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร อย่างโซลูน่าหรือพวกซิตี้ในอดีตรหัสตัวถัง AZF 412 ใช้เครื่องยนต์รหัส K12B ซึ่งเป็นเครื่องยนต์แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว ใช้วาล์วแปรผันมีทั้งทางฝั่งไอดีและไอเสีย ให้กำลังสูงสุดจากเครื่องยนต์ 1,242 ซีซี 91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน –เมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด มีหัวเกียร์กลมคันเกียร์สั้นๆ ทำให้เปลี่ยนเกียร์ได้คล่อง คลัตซ์ไม่หนักขับในเมืองนานๆไม่เมื่อยนัก ช่วงวางขาฝั่งผู้โดยสารจะดูแคบเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับอึดอัดช่วงออกตัวทำได้รวดเร็วสำหรับรถระดับนี้ ความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามน้ำหนักเท้าเมื่อเกียร์เปลี่ยนเข้าตำแหน่งสูงสุด ความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามน้ำหนักเท้าเมื่อเกียร์เปลี่ยนเข้าตำแหน่งสูงสุด ความเร็ว 110 กม./ชม. จะอยู่ที่ 3,000 รอบต่อนาที พอๆ กับโซลูน่าและโคโรลล่า 1.6
เวลาเร่งเครื่องแซงช่วง 80-100 กม./ชม. อาจจะใช้ลดเกียร์ช่วยหากต้องการแซงขาด ถ้าไม่ลดเกียร์ก็จะแซงช้าหน่อย ความเร็วเกิน 100 กม./ชม. ขึ้นไปจะแซงได้รวดเร็วกว่าโดยไม่ต้องลดเกียร์ช่วย ระบบกันสะเทือนแม็คเฟอร์สันสตรัทด้านหน้า ทอร์ชั่นบีมพร้อมคอยล์สปริงด้นหลังถูกปรับให้นิ่มตามสไตล์รถอีโคคาร์ แต่ลองใช้ความเร็วระดับ 165 กม./ชม. ก็ยังทรงตัวได้ดี ไม่ออกอาการคุมยากในรถระดับนี้ ช่วงล่างของซูซูกิ สวิฟท์ ถือว่าดีที่สุดแล้ว
ช่วงสตาร์ทรถจะต้องเหยียบคลัตซ์ก่อนถึงจะกดปุ่มแล้วเครื่องยนต์ทำงาน ต่างจากเกียร์อัตโนมัติที่ใช้การเหยียบเบรก โดยจะใช้คลัตซ์ไฮโดรลิกแทนที่จะเป็นคลัตซ์สายเพื่อความนุ่มนวลเวลาเหยียบคลัตซ์ จะใช้น้ำมันคลัตซ์รวมกับน้ำมันเบรก
เวลาเข้ารถก็ไม่ต้องกดรีโมทใช้การเปิดการที่เปิดประตูได้เลย มี 3 จุดประตูคู่หน้าและประตูท้าย โดยเสาอากาศในรถจะรับสัญญาณได้ 80 ซม. เวลาใช้งานก็ใส่กระเป๋าไว้ ส่วนการกดรีโมทก็จะได้ไกลเป็นร้อยเมตร หากไม่เปิดปะตูภายใน 30 วินาที ประตูก็จะล็อคอัตโนมัติ ซูซูกิ สวิฟท์รุ่นแรก ถือว่าเป็นรถอีโคคาร์ที่ให้ของเหนือกว่าราคา ทั้งในเรื่องตัวถังขนาดใหญ่ เครื่องยนต์ 4 สูบ ความจุเยอะสุดรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ