การเปลี่ยนแปลงของซีอาร์-วีในเจนเนอเรชั่นที่ 4 มีการสำรวจผู้ใช้ซีอาร์-วี ทั่วโลกว่าจุดด้อยของซีอาร์-วี มีตรงไหนบ้าง ปรากฏว่าลูกค้าตอบเหมือนกันว่าดีอยู่แล้วทางวิศวกรจึงต้องทำในทุกจุดเพื่อให้ซีอาร์-วี ใหม่ดีขึ้น ในเมืองนอกมีการเปิดตัวซีอาร์-วี ครั้งแรกในปี1995 ในเมืองไทยถูกนำเข้ามาขายในปี 1997 รุ่นที่สองออกมาในปี 2001 รุ่นที่สามออกมาในปี 2007 ถึงแม้ว่า ซีอาร์-วี จะออกแบบมาในสไตล์รถเอสยูวี แต่คนที่ซื้อมาใช้ก็เพราะชอบความเป็นรถสูงที่ให้การขับขี่เหมือนรถเก๋งมากกว่าจะนำไปลุย ซึ่งในบ้านเราไม่มีถนนที่ลื่นมากๆเหมือนเมืองหนาวที่มีหิมะตก แค่รุ่นขับสองก็เหลือเฟือแล้ว
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่อยากได้รถสมรรถนะดี ประหยัดน้ำมันทางฮอนด้าจึงต้องมีการปรับในเรื่องของมิติโดยลดความสูงลง 30 มม. และลดความยาวของตัวถังให้สั้นลงอีก 30 มม. เพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน ถึงตัวถังจะสั้นและเตี้ยลง ในห้องโดยสารยังคงความกว้างขวางไว้เช่นเดิม เพราะยังคงช่วงล้อไว้เท่าเดิม แต่จะลดความสูงของเบาะหลังลง 38 มม. รวมถึงลดที่เก็บยางอะไหล่ลง 30 มม. พื้นห้องเก็บของจึงลดลง 30 มม.
เพื่อความลู่ลมซีอาร์-วี จะมีกระจกที่ยื่นออกไปข้างหน้าจึงได้กระจกที่เอนลาดลดการปะทะลมได้ดี ส่วนหลังคายังสูงพอสำหรับให้พื้นที่เหนือศีรษะเปิดโล่งในสไตล์รถเอสยูวีตัวเลือกของซีอาร์-วีโฉมนี้ มีทั้งขับเคลื่อนสองล้อและสี่ล้อ โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งรุ่น 2.0 และ 2.4 ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ครบครัน ซึ่งเมืองไทยไม่ครบเซ็ตขาดทั้งไฮบริดและดีเซลที่ไม่มีโอกาสได้ใช้เพราะค่าตัวสูงเกินไปรุ่นที่ได้รับเป็นรุ่น 2.4 ขับเคลื่อนสองล้อ
เปิดประตูเข้าไปก็ได้เห็นเบาะหนังที่ปรับด้วยไฟฟ้าสำหรับคนขับ ขึ้นไปนั่งจะได้รับรู้ถึงความยาวของเบาะที่ยังรับไม่เต็มขา แต่ก็มีความกว้างเพียงพอ หนังที่หุ้มจะทำเป็นรอยย่น นั่งได้สบายกว่าเบาะที่ขึงหนังจนตึง
ความสูงของเบาะที่ลดลงแต่พื้นที่ตัวถังสูงขึ้น 5 มม.ทำให้ได้สไตล์การขับขี่เหมือนกับรถซีดานมากกว่ารถเอสยูวี รวมถึงพวงมาลัยหุ้มหนัง 3 ก้านมีปุ่มควบคุมมาให้พร้อม โดยทางฮอนด้าแยกแผงคอนโซลออกเป็น 2 โซน คือโซนคนขับกับคอนโซลควบคุมทำให้ง่ายในการใช้งาน
แผงคอนโซลไม่ใหญ่มากออกแบบให้โค้งเว้าเล่นระดับ มีจอแสดงผลอัจฉริยะ i-MID ฝังไว้ในแผงคอนโซลแยกจากเครื่องเสียงที่มีจอต่างหากสำหรับรองรับแผนที่นำทางซึ่งจะปรับระดับเสียงอัตโนมัติให้กำลังขับ 160 วัตต์พร้อมลำโพง 4 ตัว เกียร์อัตโนมัติวางไว้ชิดแผงคอนโซลจึงมีที่ว่างพอสำหรับการวางแก้วน้ำ 3 ใบและสามารถปรับเลื่อนที่วางแขนได้ถึง 60 มม. พร้อมช่องเล็กๆสำหรับใส่ของรวมทั้งวางกุญแจที่ไม่ต้องไขสตาร์ทใช้การกดปุ่มแทน
เบาะนั่งด้านหลังถูกออกแบบมาสำหรับความสะดวกในการพับเก็บในจังหวะเดียวด้วยการดึงคันโยกตรงหลังเบาะก็สามารถปล่อยเบาะพับเอนไปด้านหน้าสำหรับการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระได้แล้ว
ซึ่งพื้นที่เก็บสัมภาระของซีอาร์-วี ใหม่จะจุมากขึ้น
เครื่องยนต์ในรุ่น 2.4 จะมีการออกแบบให้เพิ่มประสิทธิภาพของการดูดไอดีและคายไอเสียพร้อมกับปรับปรุงวาล์ว บ่าวาล์วและใช้หัวเทียนชุบนิเกิลสำหรับการรองรับอี 85 ได้ มอเตอร์สตาร์ทมีกำลังสูงขึ้น มีการทำงานร่วมกันระหว่างไทมิ่งแปรผันกับระยะยกวาล์วแปรผันช่วยเพิ่มกำลังให้สูงขึ้นในรอบต่ำ
การควบคุมการเปิด – ปิดลิ้นปีกผีเสื้อด้วยไฟฟ้ามีความแม่นยำสูง ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที ใช้การส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด อัตราเร่งทำได้ต่อเนื่องตั้งแต่รอบต่ำจนถึงรอบรอบสูง ความเร็วขึ้นเร็วกว่าเดิมรอบเครื่องยนต์ต่ำลง 2,000 รอบ/นาที ได้ความเร็ว 110 กม./ชม. อัตราบริโภคดีขึ้นเยอะกับการขับ 110-120 กม./ชม. ได้อัตราบริโภคเฉลี่ย 11.4 กม./ลิตร
ช่วงล่างถูกปรับด้วยเช่นกันสำหรับความนุ่มหนึบมากขึ้นด้วยการเพิ่มขนาดโช้คอัพใหญ่ขึ้นอีก 10 % รองรับการยุบตัวที่ดีขึ้น ทำให้ความรู้สึกในการขับซีอาร์-วีใกล้เคียงรถเก๋งมากขึ้นไปอีก