ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า เอส โฉมปัจจุบันอยู่ในเจเนอเรชั่นที่ 8 เป็นการออกแบบที่ถ่ายทอด DNA ของปอร์เช่ อย่างเหนียวแน่น กับภาพลักษณ์ภายนอกที่คงความเป็นอมตะตลอดกาล มีความกว้างเพิ่มขึ้น แข็งแกร่ง ดุดันยิ่งขึ้น และเหนือชั้นยิ่งกว่า กับซุ้มล้อที่ได้รับการขยายเพื่อรองรับล้ออัลลอยคู่หน้าขนาด 20 นิ้ว และคู่หลังขนาด 21 นิ้ว
สำหรับปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า เอส รุ่นล่าสุดนี้ เป็นรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังได้รับการปรับมาใช้รูปแบบเดียวกับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยตัวถังด้านท้ายกว้างขึ้นถึง 44 มิลลิเมตร ขณะที่ตัวถังด้านหน้ากว้างขึ้นถึง 45 มิลลิเมตร เป็นผลลัพธ์จากการปรับแต่งรูปทรงตัวถังที่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ ของปอร์เช่ 911 เอาไว้อย่างเหนียวแน่น
ฝากระโปรงหน้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจนวางตัวต่อเนื่องกับกระจกบังลมหน้าทำให้มีทัศนวิสัยปลอดโปร่งยิ่งขึ้น ทั้ง 2 ส่วนดังกล่าวทำให้มุมมองด้านหน้าของรถ ดูยาวและสร้างภาพลักษณ์ที่พร้อมจะทะยานไปข้างหน้าตลอดเวลา ในขณะเดียวกัน ระบบไฟหน้า LED ใหม่ล่าสุด เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ตอกย้ำอย่างหนักแน่นถึงความล้ำสมัยของนวัตกรรมเทคโนโลยีที่อยู่ใน 911 ด้วยโคมไฟคู่หน้าทรงกลม อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้รับการติดตั้งอย่างแนบเนียนไปกับชิ้นส่วนตัวถังแบบไร้รอยต่อราวกับเป็นเนื้อเดียวกัน
แนวตัวถังด้านข้างราบเรียบกลมกลืนด้วยมือเปิดประตูแบบ electrical pop-out handles กระจกมองข้างรูปแบบใหม่ ให้ประสิทธิภาพในและลดเสียงรบกวนจากการปะทะลม พร้อมฟังก์ชันปรับและพับ ได้ด้วยไฟฟ้า ทุกชิ้นงานตัวถังภายนอกล้วนแล้วแต่ได้รับการผลิตขึ้น ด้วยอะลูมิเนียมที่แข็งแกร่งและมีน้ำหนักเบา
ด้านท้ายรถบ่งบอกถึงความกว้างที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เสริมความสปอร์ตเต็มพิกัดด้วยสปอยเลอร์หลังปรับระดับได้หลายระดับ เรียบหรูงามสง่าด้วยแผงไฟท้าย light bar คาดยาวตลอดแนวตัวถัง
ครีบดักอากาศ แนวตั้งบริเวณฝากระโปรงท้ายวางตัวต่อเนื่องกับบานกระจกบังลมหลังอย่างกลมกลืน ติดตั้งไฟเบรกดวงที่ 3 ไว้ภายในครีบดักอากาศอย่างแนบเนียน ไฟเบรกดังกล่าวจะถูกแทนที่เมื่อสปอยเลอร์หลังทำงาน โดยชุดไฟเบรกที่ติดตั้งอยู่กับตัว สปอยเลอร์ อีกหนึ่งจุดที่สร้างความแตกต่างคือครีบดักอากาศในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังเป็นวัสดุสีดำ
การตกแต่งในห้องโดยสารสมบูรณ์แบบด้วยบุคลิกที่เด่นชัด เป็นผลจากความปลอดโปร่งที่ เกิดขึ้นจากแนวเส้นตรงของ แผงคอนโซลและแผงหน้าปัทม์ ซึ่งแรงบันดาลใจในการออกแบบได้รับอิทธิพลจากปอร์เช่ รุ่นปี 1970 มาตรวัดรอบเครื่องยนต์ติดตั้งบริเวณกึ่งกลาง อันเป็นสไตล์ดั้งเดิมของปอร์เช่ ประกบด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ทั้ง ฝั่งซ้ายและขวา
บริเวณคอนโซลกลางเป็นตำแหน่งหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงของระบบ Porsche Commu-nication Management ขนาดใหญ่ถึง 10.9 นิ้ว ใช้สำหรับควบคุมและสั่งการทำงานของฟังก์ชั่นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย นอกจากนี้ชุดสวิทช์สไตล์ดั้งเดิมสุดคลาสสิกที่วางตัวอยู่ด้านล่างของหน้าจอทั้ง 5 นั้น ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในกรณีที่ ผู้ขับขี่ต้องการเข้าถึงฟังก์ชันหลักของตัวรถโดยตรง
เบาะนั่งเป็นอุปกรณ์หลักภายในห้องโดยสารที่ได้รับการพัฒนา โครงเบาะดีไซน์ใหม่ช่วยลดน้ำหนักรวมของตัวรถลงได้ถึง 3 กิโลกรัม รูปทรงเบาะที่ได้รับการปรับแต่งเพิ่มความกระชับ บริเวณหัวไหล่และรองรับลำตัวของผู้ขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยมยิ่งขึ้น ความนุ่มนวลสะดวกสบายในการใช้งานโดยรวมได้รับการ ปรับปรุงให้ดีขึ้น ในขณะที่ระดับความสูงลดลงถึง 5 มิลลิเมตร และชิ้นส่วนของเบาะมีขนาดบางลงเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น ก่อนหน้า
เป็นจุดขายของรถยนต์รุ่นนี้ในการวางเครื่องยนต์เอาไว้ด้านหลังทำให้พื้นที่ที่เป็นห้องเก็บของท้ายรถในรถส่วนใหญ่หายไปแต่ไม่ต้องกังวลเพราะทางด้านหน้าของรถที่เป็นห้องเครื่องในรถเครื่องยนต์วางหน้าตอนนี้กลายเป็นที่เก็บของที่จุพอสมควร อาจจะไม่มากเท่าทางด้านท้ายแต่นี่มันเป็นรถสปอร์ตให้มาแค่นี้ก็เยอะแล้ว
ขุมพลังที่วางอยู่ในปอร์เช่ 911 เป็นเครื่องยนต์ 6 สูบนอน เทอร์โบชาร์จรุ่นล่าสุดที่พัฒนาขึ้นใหม่ให้พละกำลังมากกว่ารุ่นเดิม เป็นผลมาจากชุดเทอร์โบที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ปรับเปลี่ยนการวางตำแหน่งของระบบอัดอากาศและเสริมประสิทธิภาพด้วยเวสเกตที่ควบคุมการทำงานด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ออกแบบระบบ charge air cooling ใหม่ และนับเป็นครั้งแรกสำหรับการติดตั้งหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง piezo injectors ให้กำลังสูงสุดกว่า 450 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที เพิ่มขึ้นถึง 30 แรงม้าเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า เครื่องยนต์มีแรงบิดเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 30 นิวตันเมตรรวมแรงบิดสูงสุดกว่า 530 นิวตันเมตรพร้อมรองรับการใช้งานในทุกรอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ 2,300 ถึง 5,000 รอบต่อนาที รอบเครื่องยนต์ต่ำ1,500รอบ/นาทีที่ความเร็ว100กม./ชม.
นับเป็นครั้งแรกของโลก สำหรับการติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ Wet mode ในยนตรกรรมปอร์เช่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบดังกล่าวจะรับหน้าที่ตรวจจับปริมาณน้ำที่ขังอยู่บนพื้นผิวเส้นทาง ปรับแต่งระบบควบคุมอื่นๆ และส่งสัญญาณ เตือนไปยังผู้ขับขี่ เพื่อเตรียมความพร้อมล่วงหน้าให้แก่รถยนต์ทั้งคัน ตอบสนองต่อความปลอดภัยสูงสุดในสถานการณ์สุ่ม เสี่ยง เพียงกดปุ่มสั่งการทำงานหรือปรับตั้งผ่านชุดสวิทช์เลือกโปรแกรมการขับขี่บนพวงมาลัย (เมื่อติดตั้งชุดแต่งเพิ่ม สมรรถนะ Sport Chrono Package) นอกจากนี้ ระบบ warning and brake assist ซึ่งได้รับการติดตั้ง เป็นมาตรฐานเช่นเดียวกัน จะรับบทบาทในการตรวจสอบอัตราเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดการเฉี่ยวชนจากวัตถุเคลื่อนไหวอื่นๆ และสั่งการเบรกฉุกเฉินล่วงหน้าในกรณีที่จำเป็น
เติมเต็มความปลอดภัยด้วยระบบเพิ่มทัศนวิสัยยามค่ำคืน Night Vi-sion Assist พร้อมกล้องตรวจจับวัตถุด้วยอุณหภูมิ thermal imaging camera อุปกรณ์พิเศษติดตั้งเพิ่มเติมที่ สามารถเลือกได้เป็นครั้งแรกสำหรับปอร์เช่ 911 (Porsche 911) ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกติดตั้งระบบควบคุม ความเร็วและระยะห่างแบบแปรผันอัตโนมัติ adaptive cruise control includes automatic distance control ระบบ stop and go การทำงานของเครื่องยนต์ ระบบ reversible occupant protection และนวัตกรรมล่าสุดระบบ autono-mous Emergency Assist