ซีรี่ส์ 7 จะเป็นเรือธงของค่ายบีเอ็มดับเบิลยู คันนี้จะเป็นรุ่นถูกที่สุดคือ 730 Li ราคาตอนเปิดตัว 7,299,000 บาท รถรุ่นนี้ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น บีเอ็มดับเบิลยู ด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ แต่มีการจัดเรียงซี่ใหม่ เหลือ 9 ซี่ จาก 12 ซี่ รวมถึงการใช้หลอด LED ทั้งไฟสูงและไฟต่ำแบบโคโรน่าริง สำหรับความหรูหรามีระดับ
ช่องรับอากาศตรงล่างกันชนจะมี 3 ส่วน โดยมีเส้นโครมบาร์สีเงินคาดไว้ตรงกึ่งกลางของช่องรับลม พร้อมกับ 2 ด้านของช่องรับลมแนวตั้งใต้ไฟ LED ทำหน้าที่เหมือนม่านอากาศ ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในช่วงความเร็วสูง จากการบังคับทิศทางลมให้หมุนเวียนตามหลักอากาศพลศาสตร์ของซุ้มล้อหน้า ยังคงความสะดวกสำหรับรถหรูที่ไม่ต้องหยิบกุญแจออกมา ใช้การจับตรงมือจับประตูเมื่อมีกุญแจติดตัวก็สามารถเปิดประตูเข้าไปได้ การใช้ปุ่มกดสตาร์ทก็เป็นอีกจุดหนึ่งของสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับรถรุ่นใหม่ๆ
เบาะหนังที่ใช้ค่อนไปทางแข็ง แต่ไม่ได้สร้างความเมื่อยล้าเวลานั่งนานๆ ใช้การปรับเบาะด้วยไฟฟ้า พร้อมความจำ ส่วนเบาะหลังก็สามารถปรับเอนได้เล็กน้อยด้วยไฟฟ้า เพื่อปรับท่านั่งให้ผ่อนคลายมากขึ้น คนที่นั่งเบาะหลังจะสามารถควบคุมชุดเครื่องเสียงหรือความบันเทิงได้รวมถึงระบบนำทางที่สามารถแสดงผลให้เห็นด้วยเช่นกัน เครื่องเสียงที่ติดรถจะเป็น Bang & Olufsen 1,200 วัตต์ ใช้ลำโพง 16 ตัว โดยตรงบนแผงคอนโซล จะมีลำโพงยกตัวขึ้นเวลาเปิดและมีแสงเรืองๆ ออกมาด้วย
เป็นเรื่องปกติสำหรับรถหรูแบบนี้ที่เป็นส่วนใหญ่จะมีคนขับรถให้ เบาะหลังที่ปรับเอนแยกอิสระพร้อมกับจอภาพ สำหรับความบันเทิงจะเปลี่ยนจากฝังไว้ตรงด้านหลังพนักพิงศีรษะมาเป็นยึดจอติดกับเบาะหลังแทน เป็นจอรูปทรงคล้าย iPad ที่มีขนาดของจอใหญ่ขึ้น
การทำงานสามารถใช้ได้อย่างอิสระแยกออกจากจอหน้าขนาด 10.25 นิ้ว โดยจอหน้าจะปรับเปลี่ยนสีของจอแสดงผลได้ตามโหมดการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นคอมฟอร์ท ,สปอร์ตหรืออีโคโปร เพื่อให้รับทราบข้อมูลที่ออกแบบมาเฉพาะการขับขี่ในแต่ละโหมด สำหรับคอมฟอร์ท หน้าจอจะดูคลาสสิค ส่วนอีโคโปและสปอร์ต หน้าจอจะมีมิติเพิ่มเติมสำหรับข้อมูลที่สำคัญๆ เพื่อให้รับรู้ถึงข้อมูลในช่วงการขับขี่
เครื่องยนต์จะเป็นเครื่องยนต์ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ ใช้หัวฉีดแรงดันสูงฉีดตรงเข้าสุ่ห้องเผาไหม้ พร้อมทวินสกอลล์เทอร์โบ ดับเบิลวาโนสและวาล์วโทรนิค ทำให้ได้กำลังสูงถึง 218 แรงม้า พร้อมแรงบิด 300 นิวตัน-เมตร ที่ 2,600 รอบต่อนาที
ใน 730 Li จะใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทำให้ได้รอบเครื่องยนต์ต่ำ ที่ 2,000 รอบ/นาที จะได้ความเร็ว 118 กม./ชม. มีอัตราบริโภคเฉลี่ย 11.5 กม./ลิตร ถึงจะต้องแบกตัวถังใหญ่ แต่ 730 Li ก็สามารถทำอัตราเร่ง 0 -100 กม./ ชม.ได้ในเวลา 8.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 240 กม./ชม.อัตราเร่งก็จะมารวดเร็วทันใจขึ้น ความสนุกในการขับเองทำได้ไม่แพ้รถเล็กทั้งในเรื่องความแรงและความคล่องตัวในการเร่งแซง ความเร็วระดับ 180 กม./ชม.ยังคุมรถได้นิ่งๆ ยิ่งปรับเป็นโหมดสปอร์ตจะได้ช่วงล่างแข็งขึ้นและอัตราเร่งจะมารวดเร็วขึ้น
ช่วงล่างของ 730 Li ใช้ดับเบิลวิชโบน อลูมิเนียม สำหรับด้านหน้าเพื่อลดน้ำหนักและได้ความมั่นคง ส่วนด้านหลังเป็น integral ทำจากอลูมิเนียมเช่นกัน พร้อมกับการเพิ่มความสบายด้วยระบบแอร์ซัสเพนชั่นเพื่อให้รถวิ่งได้ด้วยระดับคงที่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเจอสภาพถนนแบบไหนรวมถึงน้ำหนักบรรทุกมากเท่าไหร่ก็ตาม ช่วงล่างแบบนี้ จะปรับอัตโนมัติได้อิสระในล้อแต่ละด้านทำให้เวลาหักเลี้ยวกะทันหันยามเปลี่ยนช่องทางเดินรถจะรับรู้ถึงอาการขืนๆ เล็กน้อยจากการทำงานของถุงลมที่ไม่ยอมให้รถเอียง ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องยนต์รุ่นเล็กแต่ความสนุกสนานในการขับนั้นมากจนไม่อยากจะไปนั่งด้านหลัง การใส่เทคโนโลยีมาให้เยอะ
