ครูซเป็นรถที่ออกแบบตัวถังทรงลิ่มเน้นฐานล้อที่กว้างและความแบนของตัวรถเพื่อเพิ่มความเป็นสปอร์ตอย่างชัดเจน รถคันนี้จะมีกระจกหน้าที่ลาดเอียงมากเพื่อลดการต้านลม ส่งผลให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำเพียง 0.31
เส้นของโครงหลังคาที่ลากยาวจากกระจกบังลมหน้าผ่านเสาหลังคาที่ลาดยาวจากกระจกบังลมหน้าผ่านเสาหลังคากลางถึงเสาหลังจะมีความบาง รวมทั้งด้านท้ายรถที่สั้นลงทำให้รถรุ่นนี้ดูเหมือนซีดานคูเป้

กระจกหน้าแบบสองชั้นดูอัลพอร์ตดีไซน์ เพิ่มโครเมี่ยมเข้ามาพร้อมโลโก้โบว์ไทขนาดใหญ่ขึ้นทั้งหน้าและหลัง มีไฟหน้าที่ลากยาวพร้อมโป่งซุ้มล้อหน้า ฝากระโปรงหน้ามีเส้นยาวรับกับเส้นไหล่ที่บึกบึน
เข้าไปนั่งด้านในให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากเชฟโรเลตรุ่นก่อนๆ เป็นการออกแบบในสไตล์ดูอัลค็อกพิท คอนโซลกลางทรง V-Shape ต่อเนื่องกลมกลืนกับคอนโซลเกีย ซึ่งตรงแผงคอนโซลจะมีการเสริมด้วยวัสดุแบบเดียวกับแผงประตูและเบาะนั่งเพื่อความกลมกลืนต่อเนื่อง
รถรุ่นนี้จะโดดเด่นด้วยการเล่นสีสันภายในห้องโดยสารเบาะนั่งและแผงคอนโซลสีทูโทนเข้ากันได้ดี หาไม่ได้ในรถระดับนี้ที่มีการเสริมแผ่นหนังไว้บนแผงคอนโซล
ท่านั่งอาจจะมีแผงคอนโซลกลางเกะกะเข่าบ้าง เบาะนั่งได้ความกระชับดี เสียดายไม่มีตัวดันหลังไม่งั้นเบาะนั่งจะมีความสมบูรณ์กว่านี้ ลองปรับเบาะนั่งลงต่ำสุดจะมีสันของแผงคอนโซลบดบังสายตาจึงต้องปรับขึ้นสูงสุด
หากดูตามสเปคจะเห็นว่าห้องโดยสารของครูซดูกว้างขวาง มีช่องวางขา 35-65 ซม. พอนั่งจะมีพื้นที่ดูคับแคบกว่า เบาะนั่งสามารถปรับความสูงต่ำได้ หากปรับสูงสุดก็จะมีพื้นที่ว่างเหนือศีรษะไม่มากนักขณะที่ด้านหลังจะเหลือพื้นที่เหนือศีรษะน้อยเช่นกันอันเป็นลักษณะของรถที่มีกระจกลาดโค้ง
รถรุ่นนี้ได้เครื่องยนต์ที่โดดเด่นมากเป็นเครื่องยนต์ที่ยกมาจากเคปติวา สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลใช้เทอร์โบแปรผัน VGT พ่วงเทคโนโลยีหัวฉีด VCDi ที่ให้แรงดันสูงถึง 1600 บาร์ ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเลคทรอนิค
กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 4000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตรที่ 2000 รอบต่อนาที เมื่อส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ทำให้รอบเครื่องยนต์ต่ำมาก ระดับ100 กม./ชม. ใช้รอบเครื่องยนต์ 1600 รอบต่อนาทีเท่านั้นเอง
ช่วงความเร็วต่ำไล่ขึ้นไปจนถึงความเร็วสูงระดับ 140-150 กม./ชม. ช่วงล่างรับได้สบายๆ ความเร็วระดับ 160 กม./ชม. ขึ้นไป จะดูเบาๆไปบ้าง แต่จังหวะการหักเลี้ยวของพวงมาลัยจะทำได้ดี ไม่ต้องหักเลี้ยวมาก เป็นพวงมาลัยที่ไม่กว้างที่ให้ความแม่นยำในจังหวะเลี้ยวได้ดี

อัตราเร่งมาอย่างต่อเนื่องยิ่งอากาศเย็นๆ เครื่องยนต์จะชอบมาก ช่วงขึ้นทางชันแค่แตะคันเร่งเบาๆอัตราเร่งก็มาแล้วจึงไม่ต้องกดคันเร่งมาก บวกกับช่วงล่างที่ซับแรงกระแทกได้ดีจึงขับสนุกในช่วงขึ้นภูเขาพร้อมกับทางโค้งแคบๆ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องก็ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ดีเซลช่วยได้เยอะ ในเรื่องของความแรงและความประหยัดเมื่อนำมาใช้กับรถเก๋งระดับนี้
ช่วงล่างแบบ EURO- Ride จะให้ความนุ่มนวลพอสมควร ไม่แข็งกระด้างในการซับแรงกระแทก โดยเลือกด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทคอยล์สปริง ด้านหลังเป็นทอร์ชั่นบีม คานขนาด 110 ซม. ซึ่งจะใช้การเชื่อมแบบ Magnati Arc ทำให้รอยเชื่อมดูเป็นชิ้นเดียวกัน