ในเมืองไทยรถเกาหลีทำตลาดอยู่ตอนนี้ก็มีฮุนไดและ เกียซันยอง เป็นตลาดเล็กๆที่ยังไม่สามารถเบียดแซงเข้าไปแชร์ส่วนแบ่งได้มากนัก ที่ผ่านมามีรถซีดานรุ่นหรูสุดอย่างโซนาตาเข้ามาขายแล้วก็เงียบหายไปแม้ว่าจะได้หน้าตาและออพชั่นที่ใส่มาให้แบบแซงหน้ารถญี่ปุ่นในระดับเดียวกันก็ตามเป็นเพราะราคาที่ตั้งไว้สูงกว่ารถญี่ปุ่นด้วยซ้ำไปด้วยค่าตัวระดับ 1,870,000บาทในรุ่น Gและ1,550,000ในรุ่น S เห็นได้ว่าสูงกว่าพวกแอคคอร์ดหรือคัมรี่ แต่การเป็นรถนำเข้าก็จะเห็นได้ว่าราคาที่ตั้งไว้ต่ำสุดแล้วในรถระดับนี้
ด้วยกระแสรถคูเป้ 4 ประตูมาแรงจากการจุดประกายของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำให้ค่ายฮุนไดออกแบบโซนาตาให้เป็นรถคูเป้ 4 ประตูด้วยเช่นกัน เราจึงเห็นเส้นสายของรถรุ่นใหม่กับรถรุ่นเก่าต่างกันอย่างชัดเจน
ด้วยเส้นสายดูเฉียบคม ดูได้จากกระจังหน้า 3 แถบขนาดใหญ่ รับกับชุดโคมไฟหน้าที่เรียวยาววางตรงตำแหน่งมุม ด้านล่างมีไฟตัดหมอกและออกแบบให้ช่องรับลมล่างยื่นอออกมาแบบลิ้นหมาในรถแข่ง

บนตัวถังจะมีเส้นสายที่เฉียบคมนูนออกมา ทั้งส่วนของฝากระโปรงหน้าและข้างๆตัวถัง กันชนหน้าจะเว้าในช่วงของรอยต่อกับชุดโคมไฟหน้าเพื่อบังคับทิศทางลมให้ไหลผ่านออกไปทางด้านข้าง แล้วลดขนาดของกระจกมองข้างให้เรียวเล็ก ทำให้ลดเสียงรบกวนของลมที่พัดผ่านไปได้เยอะ
ตามสไตล์ของรถคูเป้จะมีเสาหน้าและกระจกเอียงไปด้านหลังมากแล้วต่อด้วยเส้นโค้งของหลังคาลดระดับลงด้านหลัง เป็นการลดแรงปะทะของอากาศปล่อยให้ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว แล้วยกขอบตรงสันกระโปรงท้ายให้มีกระแสลมหมุนวนน้อยที่สุด
สิ่งที่เหนือกว่าค่ายอื่นของโซนาตา ก็คือการเลือกหลังคาแก้วพาโนรามิกซันรูฟ ที่สามารถเปิดรับลมได้ในตอนหน้าด้วยไฟฟ้า เป็นการตอกย้ำความเหนือกว่าของเทรนด์สินค้าเกาหลีได้เป็นอย่างดี
ชุดไฟหน้าเป็นแบบ HID ด้วยความโฉบเฉี่ยวของไฟโปรเจคเตอร์พร้อมระบบปรับสูงต่ำอัตโนมัติให้แสงสว่างที่ชัดเจน ส่วนไฟท้ายแบบ 3 เหลี่ยมใช้หลอด LED เพื่อลดความทนทานและยกระดับของรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม
เข้าไปในห้องโดยสารจะเห็นถึงความหรูหราที่ถูกจัดเป็นองค์ประกอบให้เข้ากันได้อย่างลงตัวทั้งวัสดุและโทนสีภายใต้หลังคาแก้วที่ใช้แค่ปลายนิ้วก็สามารถเพิ่มความสว่างให้ทะลุหลังคาแก้วแบบกรองแสงได้
ความสุขของการเดินทางด้วยเครื่องเสียงชั้นดี พร้อมแอมป์ขยายเสียง มีลำโพง 7 ตัวสร้างเสียงดนตรีให้ไพเราะ ผู้โดยสารตอนหลังยังคงรับอากาศเย็นๆจากช่องแอร์ตอนหลัง แบบเดียวกับรถหรูของยุโรป
เบาะนั่งหุ้มหนังใช้พนักพิงศีรษะแบบ Active headrest ช่วยลดอาการบาดเจ็บตรงต้นคอเวลาเกิดอุบัติเหตุ เวลาชนท้าย หลังเบาะจะเป็นพลาสติกปิดทับเพื่อความแข็งแรง
เบาะคนขับจะปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง เพื่อความรวดเร็วในการปรับที่วางแขนบริเวณคอนโซลกลางมาพร้อมที่เก็บของแบบ 2 ชั้น เพื่อความสะดวกสบายระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติสำหรับปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม
เครื่องยนต์ที่ใช้จะเป็นเครื่องยนต์รุ่น Theta II ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร แบบแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันทั้งฝั่งไอดีและไอเสียD-CVVT
กำลังสูงสุด 165 แรงม้าที่ 6200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด198 นิวตันเมตร ที่ 4600 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ทำให้รอบเครื่องยนต์ต่ำเวลาเดินทาง
อัตราเร่งเพียงพอสำหรับการใช้งาน สามารถทำความเร็วได้เกิน 180 กม./ชม. เพียงแต่ระยะทางจะต้องใช้มากหน่อยสำหรับรถที่มีตัวถังหนักตันครึ่ง เมื่อมีคนขับแค่ 1 คน
อัตราเร่งจะทยอยมาอย่างต่อเนื่อง ไม่แรงแต่ไม่ถึงกับช้ามาก ส่วนช่วงล่างแบบแม็คเฟอร์สันสตาร์ทด้านหน้าและมัลติลิงค์ด้านหลังถูกปรับให้นิ่ม ซึ่งจะนั่งสบายเวลาใช้งานในเมือง แต่ช่วงความเร็วสูงๆอาจจะไม่แน่นเท่าช่วงล่างแข็งๆ