บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด จัดกิจกรรม Yamaha 67th Anniversary “Safety มีสติ” เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 67 ปี ยามาฮ่ามอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 1 กรกฎาคม โดยนำผลงานผู้ชนะเลิศการประกวดออกแบบลวดลายหมวกกันน็อกจากโครงการ “Yamaha Helmet Design Challenge” มาผลิตจริง จำนวนจำกัด 6,700 ใบ โดยลูกค้าที่ซื้อรถจักรยานยนต์ในเดือนเกิดของยามาฮ่า เพียงร่วมบริจาค 67 บาท สมทบมูลนิธิรามาธิบดีฯ รับฟรี!! หมวกกันน็อก ลิมิเต็ด อิดิชั่น มูลค่า 1,000 บาท รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่ให้ลูกค้าและผู้จำหน่ายได้ร่วมสนุกฉลองตลอดเดือนเกิด ยามาฮ่า มอเตอร์
นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยถึงกิจกรรมครบรอบ 67 ปีของยามาฮ่าว่า“ทุกวันที่ 1 กรกฎาคมของทุกปี ถือเป็นวันเกิด ยามาฮ่า มอเตอร์ ซึ่งบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมกับบริษัทในเครือยามาฮ่าทั่วโลกและกลุ่มลูกค้า จะจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองพร้อมกันทั่วโลก และในโอกาสยามาฮ่า มอเตอร์ ครบรอบ 67 ปี ในปีนี้ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้ระดมพลังจากกลุ่มเยาวชน ลูกค้า ผู้จำหน่าย พนักงาน ร่วมกันทำกิจกรรมเพื่องรณรงค์ และเสริมสร้างให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญในการขับขี่ปลอดภัยบนท้องถนน (Safety Riding) เพื่อลดการสูญเสียเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ตอบแทนสังคมและชุมชน ด้วยการต่อยอดแคมเปญจาก Yamaha Helmet Design Challenge ที่จัดประกวดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยได้นำเอาผลงานของผู้ชนะเลิศจากกว่า 452 ผลงาน ของกลุ่มนักศึกษาและบุคคลทั่วไป มาผลิตเป็นหมวกกันน็อก ลิมิเต็ด อิดิชั่น ลายพิเศษที่มีคุณค่า มีความหมาย และน่าสะสม จำนวน 6,700 ใบ โดยได้จัดกิจกรรม Yamaha 67th Anniversary “Safety มีสติ” โดยลูกค้าที่ซื้อรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่าทุกรุ่น (ไม่เกิน 400 ซี.ซี.) ณ ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ เฉพาะในเดือนเกิดของยามาฮ่า ระหว่างวันที่ 1-31 กรกฎาคม 2565 (หรือจนกว่าหมวกกันน็อกจะหมด) พร้อมร่วมบริจาคเงิน 67 บาท เข้ามูลนิธิรามาธิบดีฯ ใน “โครงการเพื่อผู้ป่วยยากไร้” จะได้รับหมวกกันน็อก ลิมิเต็ด อิดิชั่น มูลค่า 1,000 บาท จำกัด 1 ท่าน รับหมวกกันน็อกสูงสุด 1 ใบ โดยทางบริษัทฯ จะกระจายหมวกกันน็อกให้ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์อย่างเป็นทางการไปทั่วประเทศ โดยนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยร่วมกับโครงการดังกล่าวแล้ว ยังตอบแทนสังคมด้วยการสนับสนุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ ในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่ยากไร้และขาดแคลนทุนทรัพย์ให้ได้รับโอกาสเข้าถึงการรักษาต่อไปอีกด้วย”
