ก็มีความคึกคักกันมากขึ้นในฤดูท่องเที่ยวช่วงปลายปีแบบนี้ หลังจากที่รัฐบาลได้มีนโยบายเปิดประเทศทำให้การเดินทางของหลายๆคนเกิดขึ้นหลังจากนั่งจับเจ่าอยู่กับบ้านมาเป็นเวลานาน ค่าย Suzuki ก็เช่นกันได้มีการจัดทดสอบรถยนต์ในรุ่น XL 7 ด้วยเส้นทางเดิมที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงการเปิดตัว
ซึ่ง Suzuki XL 7 นั้นเป็นการออกแบบมาเพื่อเจาะตลาด Cross Over ที่สามารถลุยไปได้ไกลกว่าพวกตัวถังปกติอย่างเออติกาจากใต้ท้องของรถที่สูงถึง 200 มม. ทำให้การเดินทางผ่านอุปสรรคทำได้ง่ายกว่า พวกหลุมเนินหรือสภาพเส้นทางฝุ่นจึงไม่มีปัญหาสำหรับรถยนต์รุ่นนี้
แหล่งท่องเที่ยวใกล้ๆกรุงเทพฯอย่างเขาใหญ่ก็สามารถตอบโจทย์นี้ได้ เพราะการเดินทางก็ต้องผ่านสภาพการจราจรที่คับคั่งในตัวเมือง ออกสู่ชานเมืองก็สามารถทำความเร็วมากขึ้นได้ เพราะถึงเขาใหญ่ก็ยังมีเส้นทางคดเคี้ยวมีโค้งต่างๆให้ได้สัมผัสกัน
ที่เพิ่มเข้ามาในครั้งนี้ก็คือเส้นทางออฟโรดอันประกอบด้วยถนนฝุ่นและหลุมบ่อรวมไปถึงเนินเล็กๆบนถนนให้ได้ลุยกันเพื่อเป็นบทพิสูจน์ถึงสมรรถนะที่ XL 7 มีและทำได้ เป็นการเปิดใจให้กับเจ้าของรถหนึ่งในเกือบๆห้าพันคันได้รับรู้ว่ารถตัวเองนั้นมันสามารถไปได้มากกว่าการขับขี่ปกติบนถนนเรียบๆที่ใช้กันในทุกๆวัน
ในสภาพถนนปกติ XL 7 นั้นทำได้อยู่แล้วกับช่วงล่างที่ถูกเซ็ตออกมาให้เป็นแบบนุ่มๆของระบบแมคเฟอร์สันสตรัทด้านหน้าและทอช่นบีมด้านหลัง การเข้าโค้งก็ไม่ได้เกิดอาการโยนตัวจึงทำให้ได้ความมั่นใจแบบรถที่มีใต้ท้องสูงปกติ พอถึงเส้นทางที่ต้องลุยฝุ่นลุยโคลนที่ไม่โหดนักความนุ่มนวลของช่วงล่างก็ยังคงอยู่ จึงเป็นการเดินทางแบบสบายๆเมื่อต้องผ่านเส้นทางแบบนี้
ที่ตลกอยู่อย่างหนึ่งก็คือช่วงเดินทางด้วยความเร็ว 100 ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอัตราบริโภคอยู่แถวๆ 13.7กม./ลิตรพอขยับขึ้นมาเป็น 120 ถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอัตราบริโภคกลับดีขึ้นเป็น 14.6 กิโลเมตรต่อลิตรแทนที่จะกินน้ำมันมากขึ้นกลับประหยัดกว่าเป็นผลมาจากการวางเครื่องยนต์ในรหัส K15B ซึ่งเป็นเครื่องยนต์แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว 1,462ซีซี เครื่องยนต์รุ่นนี้สร้างกำลังสูงสุดได้ 150 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที
รถรุ่นนี้ยังคงใช้เกียร์ออโต้ 4 สปีดอยู่ซึ่งก็ส่งผลดีในการออกตัวหรือต้องเร่งแซงจะทันใจกว่าพวกเกียร์ CVT โดยเฉพาะกับรถที่มีตัวถังใหญ่น้ำหนัก 1,175 กิโลกรัมที่สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกรวมได้ถึง 1,730 กิโลกรัม
XL 7 เป็นทางเลือกให้กับคนที่อยากได้รถยนต์ 7 ที่นั่งมีราคาไม่สูงซึ่งรถคันนี้สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการเป็นรถครอบครัวและเป็นรถสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวโดยออกแบบเบาะนั่ง 3 แถวให้มีการปรับได้หลากหลาย ซึ่งเบาะแถวกลางจะสามารถปรับให้เลื่อนได้เพื่อให้คนที่จะขึ้นไปยังเบาะแถวหลังสุดขึ้นลงได้สะดวกมากขึ้นรวมถึงการพับพนักพิงเอนราบมาทางด้านหน้าได้
เบาะแถวหลังสุดถูกออกแบบมาสำหรับ 2 คน เมื่อไม่ได้ใช้งานก็สามารถพับพนักพิงเอนมาทางด้านหน้าหากต้องการพื้นที่เก็บสัมภาระภาระเพิ่มขึ้น
เบาะคู่หน้าหุ้มผ้าผสมหนังเทียมมีความกว้างพอดีที่จะนั่งได้แบบสบายๆพร้อมที่วางแขนตรงกลางเบาะ เป็นกล่องใส่ของเล็กๆน้อยได้
แผงคอนโซลถูกออกแบบมาให้มีเส้นโค้งเป็นคลื่นได้จอกลางที่มีขนาดใหญ่จุใจสำหรับคนที่ชอบดูหนังฟังเพลง ส่วนแอร์นั้นนอกจากจะมีที่ด้านหน้าแล้วก็ยังมีบนเพดานมาให้ด้วย พวงมาลัยจะเป็นแบบหุ้มหนังวงเล็กบางๆตัดด้านล่างตรงก็ได้ความรู้สึกไปอีกแบบ
เมื่อเบาะนั่ง 3 แถวถูกใช้งานเต็มจำนวนก็ยังมีพื้นที่เก็บของด้านท้ายรถมาให้ แต่ถ้าอยากได้พื้นที่เรียบๆเยอะๆก็สามารถพับเบาะให้รองรับกับการใช้งานแบบนี้ได้