กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากค่ายซูซูกิได้ปรับลดราคาเซเลริโอลงมาเพื่อร่วมฉลองครบรอบ 100 ปี ที่น่าสนใจก็อยู่ที่รุ่นเกียร์ธรรมดาราคาเริ่มต้นเหลือเพียงแค่ 318,000 บาท แต่พอหมดโปรโมชั่นก็มีการปรับราคาขึ้นมาเล็กน้อยแค่ 10,000 บาทเป็น 328,000 บาทซึ่งเป็นราคาที่น่าสนใจมาก
สำหรับคนที่ไม่คล่องกับเกียร์ธรรมดาก็ยังมีเกียร์ออโต้มาให้เลือกโดยมีรุ่น GL ราคา 408,000 บาทและรุ่น GX ราคา 437,000 บาท ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ต้องผ่อนหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน โดยรุ่นเกียร์ธรรมดาเริ่มต้นผ่อนเพียงแค่ 1999 บาทเท่านั้นเอง
เพื่อพิสูจน์สมรรถนะว่าเซเลริโอก็เดินทางไกลได้ทางซูซูกิจึงได้จัดกิจกรรม “SUZUKI CELERIO 1999 No Boundary Journey” ชวนคณะสื่อมวลชนร่วมพิสูจน์สมรรถนะเพื่อตอกย้ำความสำเร็จของ SUZUKI CELERIO คอมแพคอีโคาร์คุณภาพเกินตัว กับการฝ่า 4 ภารกิจสุดท้าทาย ผ่านการเดินทางไปยัง 4 จังหวัด ใน 4 ภาคของประเทศไทย กับระยะทางรวมกว่า 1,999 กิโลเมตร
ภารกิจที่ 1 เส้นทางกรุงเทพฯ – ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางเพื่อพิสูจน์ความอเนกประสงค์ของ SUZUKI CELERIO ด้วยการให้ผู้สื่อข่าวที่เข้าร่วมกิจกรรมขับรถทางไกลถึง 445 กิโลเมตร พร้อมกับการขนสัมภาระเต็มคัน เพื่อท้าทายทุกความเชื่อและแสดงให้เห็นว่าอีโคคาร์ขนาดกะทัดรัดรุ่นนี้มีพื้นที่เพียงพอต่อการใช้งานได้ตามความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 254 ลิตร สามารถจัดวางสิ่งของได้ง่าย และปรับพื้นที่เก็บของได้หลากหลาย
ภารกิจที่ 2 เส้นทางกรุงเทพฯ – ระยอง ด้วยระยะทางกว่า 500 กิโลเมตร จึงชวนสื่อมวลชนไปท้าพิสูจน์เรื่องของสมรรถนะการขับขี่ ทั้งเรื่องของอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจ ช่วงล่างแน่นหนึบ ยึดเกาะถนน ผ่านเส้นทางที่มีความหลากหลายของสภาพถนนและการจราจรครบทุกรูปแบบได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
ภารกิจที่ 3 เส้นทางกรุงเทพฯ – นครราชสีมา (เขาใหญ่) ระยะทางกว่า 515 กิโลเมตร ชวนสื่อมวลชนมาท้าพิสูจน์ความประหยัดอย่างเหนือชั้น ด้วยการแข่งขันขับประหยัดน้ำมัน ที่จะถูกควบคุมภายใต้กฎกติกาอันเป็นมาตรฐานอย่างเข้มงวดจากคณะกรรมการผู้จัดกิจกรรมการแข่งขัน
ภารกิจที่ 4 เส้นทางกรุงเทพฯ – นครสวรรค์ ระยะทางรวมประมาณ 539 กิโลเมตร กับการชวนสื่อมวลชนพร้อมกับจำนวนผู้โดยสารรวม 4 คน ไปสัมผัสถึงความสบายของห้องโดยสารที่กว้างกว่าที่คิด ด้วยพื้นที่บริเวณเหนือศีรษะและพื้นที่วางขา ที่จะทำให้เพลิดเพลินตลอดการเดินทาง
สำหรับการเดินทางครั้งนี้จะเป็นเส้นทางที่ 2 โดยมีจุดหมายอยู่ที่จังหวัดระยองซึ่งก็ทำให้แปลกใจในความเหนือกว่าที่คาดหวังเอาไว้สำหรับรถเล็กๆราคาประหยัดคันนี้จะทำได้ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมยอดขายของเซเลริโอ้ถึงได้ดีวันดีคืน
ช่วงเดินทางมีผู้โดยสาร 3 คนในรถแต่ก็ไม่ได้ทำให้สมรรถนะของเซเลริโอ้ด้อยลงไป เป็นเพราะการใช้โครงสร้างตัวถังTACTเป็นโครงสร้างเหล็กชนิดพิเศษที่ช่วยให้มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ด้วย
น้ำหนักผู้โดยสารที่เพิ่มเข้าไปก็ไม่ได้ทำให้สมรรถนะด้อยลงไปแม้ว่าเครื่องยนต์ที่ใช้จะมีแค่ 3 สูบ 12 วาล์ว 1000 ซีซี ในรหัส k10b ที่ให้กำลังสูงสุด 68 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 90 นิวตันเมตรที่ 3,500 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ CVT ที่ค่อนข้าง sensitive หน่อยเมื่อวางน้ำหนักเท้าเยอะรอบจะขึ้นสูงทันที แต่ถ้าขับแบบนิ่มๆรอบเครื่องยนต์ก็จะต่ำที่ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะอยู่แค่ 2000รอบต่อนาที เท่านั้นเองทำให้อัตราบริโภคต่ำด้วยช่วงที่ใช้ความเร็วเดินทาง100-120กม./ชม.ก็ยังทำได้เกิน18กม./ลิตร
ห้องโดยสารก็ไม่ได้แคบมากเข้าไปนั่งจะมีพื้นที่ว่างเพียงพอไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด ระหว่างเบาะคู่หน้าจะดูโล่งๆไม่มีกล่องกลางเบาะมาให้ โดยเบาะคู่หน้าจะเป็นเบาะที่มีด้านหลังเป็นชิ้นเดียวกันกับหมอนรองศีรษะ
ส่วนเบาะหลังจะเหมาะกับเด็กๆมากกว่าเนื่องจากเป็นเบาะนั่งที่มีพนักพิงศีรษะไม่สูงถ้าเป็นผู้ใหญ่จะดูโล่งๆหน่อย เป็นเบาะนั่งที่สามารถพับได้แบบ 60:40 เพื่อรองรับสัมภาระชิ้นใหญ่ๆ
เมื่อเดินทางไกลก็สะดวกกับพื้นที่จัดเก็บสัมภาระที่จุได้ถึง 254 ลิตรบวกกับหลังคาที่สูงทำให้การจัดเก็บทำได้ง่าย โดยมีแผ่นปิดพื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านหลังมาให้พร้อม
การออกแบบแผงคอนโซลที่มีเส้นสายทำให้ดูไม่น่าเบื่อปุ่มควบคุมต่างๆอยู่ใกล้มือ ในรถรุ่นนี้จะได้พวงมาลัยที่ปรับได้โดยโชว์มาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางของหน้าปัดทำให้ดูได้ง่าย
ความคล่องตัวที่ได้จากรถตัวถังขนาดนี้ถือว่าทำได้ดีทีเดียวส่วนการใช้ความเร็วระดับ 165 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ทำได้ไม่ยากโดยตัวรถยังคงทรงตัวได้นิ่งอยู่แม้ว่าจะใช้ยาง 165/70 -13 ก็ตาม ก็ไม่มีอาการโคลงให้เห็นตอนที่ใช้ความเร็วสูงๆ