• News
  • Newcar
  • Review
  • Worldcar
  • Usedcar
  • Motorcycle
  • History
  • Knowledge
Trending
  • LEXUS และ TOYOTA รับ 4 รางวัล “The Best Award 2023”
  • All New GWM TANK 500 Hybrid SUV ยอดจองสิทธิ์เพื่อซื้อกว่า 1,000 คันภายใน 1 สัปดาห์
  • MMS จับมือ TUNAP จากประเทศเยอรมนี เปิดตัว ‘airco well®’ นวัตกรรมรักษ์โลกใหม่ล่าสุด
  • กรังด์ปรีซ์ฯ มอบรางวัล The Best Award Bangkok International Motor show 2023
  • จัดเต็มแบบชื่นฉ่ำรับสงกรานต์ออกรถกับ CARSOME พร้อมบัตรเติมน้ำมันฟรี
  • มิชลิน คว้าสองรางวัลในงานมหกรรมแสดงสินค้าเทคโนโลยีเกี่ยวกับยางล้อ ประจำปี 2566
  • BYD และ NVIDIA ประกาศขยายความร่วมมือเพื่อสร้างสรรค์ยานยนต์อัจฉริยะแห่งอนาคตที่ปลอดภัย
  • Honda Dax Tamiya Limited Edition ปลุกตำนานของเล่น Tamiya สู่ท้องถนน
วันเสาร์, 1 เมษายน
  • ติดต่อเรา : 0819134292
  • อีเมล์ : aphichaik@hotmail.com
ข่าวรถยนต์ ข่าวยานยนต์
  • News
  • Newcar
  • Review
  • Worldcar
  • Usedcar
  • Motorcycle
  • History
  • Knowledge
ข่าวรถยนต์ ข่าวยานยนต์

Lamborghini LB744 สู่มาตรฐานใหม่แห่งรถยนต์ไฮบริดซูเปอร์สปอร์ต

0
By admin on มีนาคม 10, 2023 Knowledge

ลัมโบร์กินี (Lamborghini) สุดยอดแบรนด์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์หรูระดับโลกสัญชาติอิตาลี เผยรายละเอียดของรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตระบบไฮบริด ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง (High Performance Electrified Vehicle: HPEV) รุ่นแรกของแบรนด์โดยใช้ชื่อรหัส LB744 และมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการฉลองครบรอบ 60 ปีลัมโบร์กินีอย่างยิ่งใหญ่ โดยลัมโบร์กินีภูมิใจนำเสนอ LB744 ให้เป็นมาตรฐานใหม่ทั้งในด้านสมรรถนะและความเพลิดเพลินในการขับขี่ ด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมโครงสร้างใหม่ในทุกรายละเอียด โดดเด่นด้วยระบบส่งกำลังรุ่นใหม่ที่ให้กำลังเครื่องรวมสูงกว่า 1,000 CV ผสานพลังระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายใน 12 สูบรุ่นใหม่เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยทำงานร่วมกับชุดเกียร์แบบดับเบิลคลัชต์ดีไซน์ใหม่ที่จะเปิดตัวครั้งแรกในรถยนต์ลัมโบร์กินี 12 สูบรุ่นนี้

LB744 ใช้เลย์เอาต์การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยติดตั้งเครื่องยนต์แบบไร้ระบบอัดอากาศรุ่น V12 ขนาด 6.5 ลิตร บริเวณกลางตัวรถและมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ร่วมกับชุดเกียร์ท้ายดับเบิลคลัชต์8 สปีดรุ่นใหม่ โดยติดตั้งแนวขวางซึ่งเป็นการวางตำแหน่งที่ด้านหลังเครื่องยนต์สันดาปเป็นครั้งแรก ส่วนพื้นที่ของท่อส่งกำลังที่มีมาตั้งแต่รุ่น Countachถูกแทนที่ด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้ามอเตอร์ไฟฟ้าสามารถช่วยจ่ายไฟให้กับเครื่องได้ในขณะทำงานรอบต่ำและยังสามารถเปลี่ยน LB744 ให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์รวมได้ถึง 30% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น AventadorUltimae

ลัมโบร์กินีอยู่คู่เครื่องยนต์ V12 มาตั้งแต่ยุคก่อตั้งบริษัท โดยรถยนต์รุ่นแรกที่ใช้เครื่องยนต์ที่มีคุณสมบัติพิเศษนี้คือรุ่นไอคอนิกอย่าง 350GT ซึ่งเปิดตัวในปี 1963 ส่วนครั้งแรกที่มอเตอร์ไฟฟ้าได้ถูกนำมาผสานเข้ากับเครื่องยนต์สันดาปภายใน 12 สูบของลัมโบร์กินี คือรุ่น Siánในปี 2019 โดยใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้า 25 กิโลวัตต์ มาเสริมกำลังของเครื่องยนต์ V12 ผ่านการเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ในตัวเก็บประจุ (Supercapacitor)LB744 ยังนำเสนอสถาปัตยกรรมโครงสร้างแบบไฮบริดที่ไม่เคยมีมาก่อนรวมถึงเครื่องยนต์ V12 เจนใหม่ โดยจะเป็นการเปิดตัวรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตระบบไฮบริดในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง (High Performance Electrified Vehicle: HPEV) รุ่นแรกที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกำลังไฟสูงน้ำหนักเบา ติดตั้งในท่อส่งกำลังที่อยู่ส่วนกลางของโครงแชสซี ซึ่งถือเป็นโซลูชันใหม่ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดการปล่อยไอเสีย เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเครื่องยนต์ V12 ที่ผ่านมา พร้อมกับการเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ในระดับสูงสุด

เครื่องยนต์ L545 รุ่นใหม่นี้มีความจุ 6.5 ลิตร โดยเป็นเครื่องยนต์ 12 สูบที่เบาที่สุดและให้กำลังเครื่องสูงสุดเท่าที่ลัมโบร์กินีเคยผลิตมา โดยมีน้ำหนักรวมเพียง 218 กิโลกรัม ซึ่งเบากว่าเครื่องรุ่น Aventadorถึง 17 กิโลกรัม โดย LB744 เปลี่ยนมุมติดตั้งเครื่องยนต์ถึง 180 องศาเมื่อเปรียบเทียบกับเลย์เอาต์ของ Aventadorโดยเครื่องยนต์ Superquadro V12 มอบกำลัง 825 CV ที่ 9,250 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นผลมาจากระบบจ่ายกำลังเครื่องรุ่นใหม่ที่รองรับรอบเครื่องยนต์ได้สูงสุดถึง 9,500 รอบต่อนาที โดยมีค่ากำลังจำเพาะอยู่ที่ 128 CV ต่อลิตร ซึ่งถือว่าเป็นกำลังเครื่องที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ของเครื่องยนต์ 12 สูบของลัมโบร์กินี ทั้งยังให้แรงบิดสูงสุดถึง 725 นิวตันเมตร ที่ 6,750 รอบต่อนาที

ท่อดักอากาศได้รับการออกแบบโครงสร้างใหม่เพื่อเพิ่มปริมาณอากาศและเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนอากาศสู่ห้องเผาไหม้ให้ดียิ่งขึ้น การเผาไหม้ในห้องเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงสุดยังมาจากระบบควบคุมการแตกตัวของประจุในห้องเครื่องผ่านหน่วยควบคุม 2 ยูนิต ซึ่งเป็นโซลูชันที่เคยใช้ในรุ่น Aventadorและวันนี้ได้ถูกส่งต่อมายังรถยนต์รุ่นนี้ ระบบการสันดาปใหม่ยังมีอัตราส่วนกำลังอัดเพิ่มขึ้น (12.6:1 เมื่อเปรียบเทียบกับ 11.8:1 ในรุ่น AventadorUltimae) ท่อไอเสียก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ เพื่อการไหลเวียนของไอเสียเมื่อเครื่องมีกำลังรอบสูงได้ดีขึ้น และเพิ่มกำลังเครื่องจำเพาะให้สูงขึ้น

ลัมโบร์กินีมีชื่อเสียงเลื่องลือมาตั้งแต่ยุคก่อตั้งในด้านพลังเสียงอันกระหึ่มสุดเร้าใจที่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง ซึ่งพลังเสียงนี้ก็ได้ถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่ในเครื่องรุ่น L545 นี้เช่นกัน เพื่อเน้นย้ำถึงพลังเครื่องยนต์ซึ่งจะให้เสียงที่กลมกล่อมในขณะรอบเครื่องต่ำ และค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นไปอย่างเป็นธรรมชาติในยามที่รถยนต์พุ่งทะยานไปLB744 ยังคงรักษาหนึ่งในมาตรฐานที่แข็งแกร่งที่สุดของลัมโบร์กินี นั่นคือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งในขณะที่เครื่องยนต์สันดาปภายในมอบกำลังให้กับล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ก็จะมอบกำลังให้กับเพลาหน้า โดยมอเตอร์แต่ละตัวจะสร้างแรงดึงกับล้อหน้าแต่ละข้าง นอกจากนี้ยังมีมอเตอร์ไฟฟ้าตัวที่สามที่วางอยู่เหนือชุดเกียร์ดับเบิลคลัตช์ 8 สปีด ที่ช่วยส่งแรงให้ล้อหลัง โดยขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่ที่เลือกและสภาพของพื้นถนน

แรงบิดรวมจากเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว มอบสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่นเหนือใครแม้ในหมู่รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ต ด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 725 นิวตันเมตรจากเครื่องยนต์สันดาปภายใน และอีก 350 นิวตันเมตรจากมอเตอร์หน้าแต่ละตัว ซึ่งเมื่อรวมแล้ว จะสามารถมอบกำลังรวมสูงสุดได้ถึง 1,015 CV เลยทีเดียวมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวด้านหน้าเป็นมอเตอร์แกนฟลักซ์แบบน้ำมันหล่อเย็นและให้อัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าดีเยี่ยมที่ 18.5 กิโลกรัมจากมอเตอร์ 110 กิโลวัตต์แต่ละตัว นอกจากการส่งกำลังแก่ล้อหน้าแต่ละข้าง ยังมีฟังก์ชั่นTorque Vectoring เพื่อยกระดับพลศาสตร์การขับขี่และกู้พลังงานจากการเบรก โดยเมื่อเลือกโหมดการขับขี่แบบไฟฟ้า LB744 จะขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าเท่านั้นเพื่อลดอัตราการใช้พลังงานให้น้อยที่สุด ซึ่งในขณะขับด้วยระบบไฟฟ้า เพลาหลังจะทำงานเฉพาะเมื่อถูกสั่งการในสถานการณ์ที่จำเป็นเท่านั้น

ลัมโบร์กินี LB744 ติดตั้งชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกำลังสูง (4500 วัตต์ต่อกิโลกรัม) ไว้บริเวณท่อแกนกลาง ทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงได้ต่ำสุดและมั่นใจได้ถึงการกระจายน้ำหนักที่ดีเยี่ยม ตัวแบตเตอรี่ได้รับการปกป้องโดยชั้นโครงสร้างส่วนล่างและเชื่อมต่อไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าตัวหน้า มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหลัง และหน่วยชาร์จไฟที่รวมไว้ในระบบแบตเตอรี่มีความยาว 1,550 มม. สูง 301 มม. และกว้าง 240 มม. บรรจุเซลล์พลังงานรวมความจุ 3.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง เมื่อประจุลดลงเหลือศูนย์ สามารถชาร์จใหม่ได้ทั้งการใช้กระแสสลับและแบบชาร์จในบ้านที่มีกระแสสูงสุด 7 กิโลวัตต์ โดยชาร์จเต็มในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังสามารถชาร์จไฟจากการเบรกของล้อหน้าที่ช่วยประจุไฟได้ หรือชาร์จโดยตรงจากเครื่องยนต์ V12 ในเวลาเพียง 6 นาที

การประยุกต์ใช้แพลตฟอร์มใหม่ยังครอบคลุมถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญทางเทคนิคอย่างเรื่องชุดเกียร์ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางประสาทของรถยนต์แบบ Plug-in Hybrid โดยในครั้งนี้ ลัมโบร์กินีได้พัฒนาหน่วยส่งกำลังขนาดเล็กรุ่นใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ข้อกำหนดเรื่องพลังงานไฟฟ้าแรงสูงได้ ซึ่งพัฒนาและออกแบบโดยทีมงานภายในบริษัทลัมโบร์กินีทั้งหมด และหลังจากติดตั้งใช้งานใน LB744 อุปกรณ์นี้จะถูกใช้ในรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตรุ่นต่อไปที่ผลิตใน Sant’Agata Bolognese แห่งนี้แผนกวิจัยและพัฒนาของลัมโบร์กินีได้ออกแบบระบบคลัตช์คู่แบบเปียกให้เป็นโซลูชันประสิทธิภาพสูงสุด และเน้นด้านการเสริมสมรรถนะเครื่องยนต์เป็นหลัก เพื่อให้สามารถสร้างแรงบิดสูงสุดถึง 725 นิวตันเมตร ที่ 6,750 รอบต่อนาทีจากเครื่องยนต์สันดาปภายใน

ชุดเกียร์ 8 สปีดรุ่นใหม่ถูกวางตำแหน่งตามขวางด้านหลังเครื่องยนต์ V12 ที่วางตามแนวยาว เพื่อเว้นเนื้อที่ในท่อระบบส่งกำลังสำหรับการติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่จะเป็นตัวให้พลังงานแก่มอเตอร์ไฟฟ้า ถือเป็นโซลูชันทางเทคนิคอันยอดเยี่ยมในโลกยานยนต์สมรรถนะสูง และยกระดับให้ลัมโบร์กินีขึ้นแท่นผู้นำด้านวิศวกรรมยานยนต์อีกครั้ง การวางเลย์เอาต์ลักษณะนี้ยังช่วยรักษาตำแหน่งของฐานล้อและเสริมการกระจายน้ำหนักให้ดีขึ้นเพื่อเสริมระบบพลศาสตร์การขับขี่ให้ดีที่สุด

ตลอดประวัติศาสตร์กว่า 60 ปีของลัมโบร์กินี มีรถยนต์เครื่อง V12 เพียง 2 รุ่นที่ติดตั้งชุดเกียร์ตามแนวขวาง นั่นคือรุ่นปฏิวัติวงการอย่าง Miura ที่เปิดตัวในปี 1966 ซึ่งใช้เลย์เอาต์เครื่องยนต์แนวขวางบริเวณกลางค่อนมาทางท้ายรถ และรุ่น Essenza SCV12 รถยนต์ไฮเปอร์คาร์ที่เน้นการขับขี่ในสนามแข่งซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์แนวยาวและชุดเกียร์รับน้ำหนักแนวขวางโครงสร้างภายในของชุดเกียร์รุ่นใหม่นี้มีชาฟต์พิเศษ 2 ชิ้นซึ่งตรงข้ามกับตามปกติที่มี 3 ชิ้น ชิ้นหนึ่งทำหน้าที่ควบคุมเกียร์เลขคู่ อีกชิ้นควบคุมเกียร์เลขคี่ โดยทั้งสองชิ้นทำงานกับโรเตอร์ตัวเดียวกัน การวางเลย์เอาต์ลักษณะนี้ยังช่วยลดน้ำหนักรวมและประหยัดพื้นที่ได้อย่างมาก

การพัฒนาระบบส่งกำลังดับเบิลคลัตช์ (Double Clutch Transmission: DCT) 8 สปีด เกิดจากแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์อุปกรณ์ที่สามารถมอบทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการขับขี่แนวสปอร์ต อย่างการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว ในขณะที่การทำงานร่วมกันของทั้ง 8 สปีดช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและความสามารถในการขับขี่ในขณะโลดแล่น โดยมีฟีเจอร์พิเศษอย่าง “การลดเกียร์ต่อเนื่อง” ซึ่งสามารถลดเกียร์ทีละหลายสเต็ปเมื่อทำการเบรกได้อย่างง่ายดายเพียงกดค้างที่แป้นด้านซ้าย ซึ่งทำให้ผู้ขับรู้สึกถึงการควบคุมที่สมบูรณ์แบบเมื่อไม่นับรวมชิ้นส่วนระบบไฟฟ้า ชุดเกียร์ DCT รุ่นใหม่นี้จะมีน้ำหนักเบากว่าและเร็วกว่าในการเปลี่ยนเกียร์ เมื่อเปรียบเทียบกับระบบดับเบิลคลัตช์ 7 สปีดที่ใช้ในตระกูล Huracán โดยการวางเลย์เอาต์แนวขวางนี้ยังช่วยเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารให้กว้างขวางกว่า จึงมีเนื้อที่ด้านหลังคนขับและผู้โดยสารที่โปร่งตาและผ่อนคลายมากขึ้น

ชุดเกียร์ดับเบิลคลัตช์มีขนาดกะทัดรัดมาก โดยยาวเพียง 560 มม. กว้าง 750 มม. และสูง 580 มม. เท่านั้น น้ำหนักรวมเพียง 193 กิโลกรัม ซึ่งรวมถึงชิ้นส่วนพื้นฐานใหม่ในโครงสร้างรถยนต์ไฮบริดด้วย นั่นคือมอเตอร์ไฟฟ้าส่วนหลังซึ่งมีกำลังไฟ 10 กิโลวัตต์และแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตรมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งด้านบนชุดเกียร์ทำหน้าที่สองอย่าง ทั้งเป็นมอเตอร์สตาร์ตและเจเนอเรเตอร์ รวมถึงจ่ายพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าส่วนหน้าผ่านทางแบตเตอรี่ในท่อระบบส่งกำลัง เมื่อเปลี่ยนมาใช้โหมดไฟฟ้าทั้งหมด มอเตอร์นี้ยังส่งกำลังให้กับล้อหลัง ซึ่งนอกจากเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า ยังทำให้การขับเคลื่อนสี่ล้อมีอัตราการปล่อยไอเสียเป็นศูนย์ การปรับฟังก์ชั่นการทำงานให้สอดคล้องตามโหมดการขับขี่นี้เกิดจากการกลไกแบบแยกส่วนที่ควบคุมผ่านตัวประสานที่ออกแบบมาโดยเฉพาะซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนชุดเกียร์ดับเบิลคลัตช์  โดยในขณะส่งกำลังเสริมให้กับเครื่องยนต์สันดาปภายใน V12 มอเตอร์ไฟฟ้านี้จะอยู่ในตำแหน่ง P3 โดยแยกตัวจากชุดเกียร์ และจะเคลื่อนไปอยู่ตำแหน่ง P2 เพื่อชาร์จไฟแก่แบตเตอรี่ในขณะวิ่งด้วยความเร็วต่ำและจอดนิ่ง จึงทำหน้าที่เป็นมอเตอร์สตาร์ตด้วยเช่นกัน

เมื่ออยู่ในตำแหน่ง P3 รถยนต์ LB744 จะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนสี่ล้อในทันที โดยขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่ที่เลือก จึงเป็นเสมือนการสานต่อมาตรฐานการขับเคลื่อนสี่ล้อของลัมโบร์กินี โดยมีอัตราการปล่อยไอเสียเป็นศูนย์ไปได้พร้อมกันเกียร์ถอยหลังจะทำงานผ่านมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวหน้า ซึ่งหากจำเป็นต้องการแรงเสริม มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังก็จะเข้ามาช่วยเสริมแรงโดยส่งกำลังให้เพลาและล้อหลัง ผลลัพธ์ก็คือรถยนต์ LB744 รุ่นใหม่นี้สามารถขับเคลื่อนสี่ล้อโดยมีอัตราการปล่อยไอเสียเป็นศูนย์ แม้ในขณะถอยหลังบนพื้นถนนที่มีแรงยึดเกาะต่ำก็ตาม

Auto Automobile autowoke Car Car news knowledge Motor Sport news worldcar ข่าว ข่าวรถยนต์ ข่าวออนไลน์ ข่าวอัพเดท จักรยานยนต์ ทดลองขับ ทดสอบรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ยานยนต์ รถมือสอง รถยนต์ รถเก่า รถใหม่
Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
Previous Article“ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่” ยนตรกรรมอเนกประสงค์ 5 ที่นั่ง
Next Article ฮอนด้า เปิดตัว “ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่”

Related Posts

LEXUS และ TOYOTA รับ 4 รางวัล “The Best Award 2023”

มีนาคม 31, 2023

All New GWM TANK 500 Hybrid SUV ยอดจองสิทธิ์เพื่อซื้อกว่า 1,000 คันภายใน 1 สัปดาห์

มีนาคม 31, 2023

MMS จับมือ TUNAP จากประเทศเยอรมนี เปิดตัว ‘airco well®’ นวัตกรรมรักษ์โลกใหม่ล่าสุด

มีนาคม 31, 2023
ค้นหาข่าวที่คุณสนใจ..

LEXUS และ TOYOTA รับ 4 รางวัล “The Best Award 2023”

มีนาคม 31, 2023

All New GWM TANK 500 Hybrid SUV ยอดจองสิทธิ์เพื่อซื้อกว่า 1,000 คันภายใน 1 สัปดาห์

มีนาคม 31, 2023

MMS จับมือ TUNAP จากประเทศเยอรมนี เปิดตัว ‘airco well®’ นวัตกรรมรักษ์โลกใหม่ล่าสุด

มีนาคม 31, 2023

กรังด์ปรีซ์ฯ มอบรางวัล The Best Award Bangkok International Motor show 2023

มีนาคม 31, 2023

จัดเต็มแบบชื่นฉ่ำรับสงกรานต์ออกรถกับ CARSOME พร้อมบัตรเติมน้ำมันฟรี

มีนาคม 31, 2023

มิชลิน คว้าสองรางวัลในงานมหกรรมแสดงสินค้าเทคโนโลยีเกี่ยวกับยางล้อ ประจำปี 2566

มีนาคม 31, 2023

BYD และ NVIDIA ประกาศขยายความร่วมมือเพื่อสร้างสรรค์ยานยนต์อัจฉริยะแห่งอนาคตที่ปลอดภัย

มีนาคม 31, 2023

Honda Dax Tamiya Limited Edition ปลุกตำนานของเล่น Tamiya สู่ท้องถนน

มีนาคม 31, 2023

ฮอนด้าอัดโปรเด็ดออนไลน์ 3 วันสุดท้ายมอเตอร์โชว์

มีนาคม 31, 2023

“ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า” จัดฝึกสอนทักษะขับขี่ให้กับตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ

มีนาคม 31, 2023

ไทยฮอนด้าคว้า 2 รางวัลใหญ่ ในงาน Bangkok Motor Show 2023

มีนาคม 31, 2023

ALPHA VOLANTIS บุกงานมอเตอร์โชว์โคราช ครั้งที่ 31

มีนาคม 31, 2023

“SOLAR” พร้อมโลดแล่นสร้างสีสันกับงาน มอเตอร์โชว์โคราช ครั้งที่ 31

มีนาคม 31, 2023

ไทร์พลัส จัดแคมเปญเด็ด “โปรร้อนก่อนเที่ยว”แจกส่วนลดมูลค่าสูงสุด 4,000 บาท

มีนาคม 30, 2023

อีซูซุชวนลุ้นภารกิจสุดท้าทาย ใน Isuzu V-Cross 4×4 Master Of All Roads Season 2

มีนาคม 30, 2023
ติดต่อเรา
คุณอภิชัย ไกรนุกูล (APHICHAI KRAINUKOOL)
Email : aphichaik@hotmail.com
เบอร์โทร : 0819134292
ฝ่ายขายและโฆษณา
คุณจินตนา ภู่แย้ม
เบอร์โทร : 0819201264
Email : maew_jintana@hotmail.com
Photographer
คุณมนัส แช่มประสิทธิ์
เบอร์โทร : 0945455391

 7,483 total views,  1 views today

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.