รถรุ่นพิเศษภายใต้แนวคิด Heritage Design ไม่เพียงเป็นการยกย่องประวัติศาสตร์ของปอร์เช่เท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำมิติด้านไลฟ์สไตล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวคิดหลักภายใต้กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของปอร์เช่ (Porsche Product Strategy) ที่มุ่งสร้างประสบการณ์และอารมณ์ร่วมให้กับผู้ขับขี่อย่างลึกซึ้ง รุ่นแรกของซีรีส์นี้คือ 911 ทาร์กา 4เอส เฮอริเทจ ดีไซน์ เอดิชัน (911 Targa 4S Heritage Design Edition) ซึ่งเปิดตัวในปี 2020 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากยุค 1950s ถึงต้นทศวรรษ 1960s ต่อมาในปี 2022 ปอร์เช่ได้เปิดตัวรถสะสมรุ่นที่สองภายใต้แนวคิดเดียวกัน นั่นคือ 911 สปอร์ต คลาสสิก (911 Sport Classic) ซึ่งสะท้อนสไตล์แห่งยุค 1960s ถึงต้นยุค 70s ได้อย่างชัดเจน โดยผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,250 คัน
สัญลักษณ์ของการขยายขอบเขตบริการปรับแต่งเฉพาะบุคคลของปอร์เช่ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ผ่านแผนก Porsche Exclusive Manufaktur ที่มีตัวเลือกให้ลูกค้าเลือกสรรได้มากกว่า 1,000 รายการ ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ยอดสั่งซื้ออุปกรณ์ตกแต่งจาก Exclusive Manufaktur เพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึงสองเท่าต่อคัน สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการด้านความเฉพาะตัวที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มลูกค้าทั่วโลก เพื่อรองรับความต้องการอันหลากหลายในอนาคต ปอร์เช่มีแผนขยายศักยภาพของแผนก Exclusive Manufaktur อย่างมีนัยสำคัญ สี Turbonite ยังเป็นโทนสีหลักของตราสัญลักษณ์ (Crest) ที่ออกแบบมาพิเศษสำหรับรถยนต์ตระกูล Turbo โดยเฉพาะ ในเร็ว ๆ นี้ รถรุ่นสมรรถนะสูงระดับเรือธงทั้งหมดของปอร์เช่ จะได้รับการติดตั้งตราสัญลักษณ์พิเศษนี้ ทั้งที่ด้านหน้า ตัวรถ, ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา (Light Alloy Wheels) และบนพวงมาลัย
Porsche Design ยังได้รังสรรค์นาฬิกาโครโนกราฟคุณภาพสูงแบบเอ็กซ์คลูซีฟ สำหรับผู้ซื้อรถรุ่นนี้ ดีไซน์ของนาฬิกาเรือนนี้สะท้อนรายละเอียดจาก 911 Spirit 70 ได้อย่างมีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะลวดลาย Pasha สีดำเงา บนหน้าปัด ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากลายเบาะกลางของรถรุ่นพิเศษคันนี้โดยตรง Porsche Lifestyle Collection ที่ออกแบบมาให้เข้าชุดกับ 911 Spirit 70 เปิดโอกาสให้คุณได้ย้อนสู่ยุค 1970s อย่างมีสไตล์และเต็มไปด้วยความคลาสสิกที่แท้จริง กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับนักสะสมสุดพิเศษนี้ประกอบด้วยเสื้อผ้าแนว Daywear, Sportswear แอสเซสซอรี่ไลฟ์สไตล์ และโมเดลรถที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณของยุคนั้นได้อย่างลงตัว ทีมนักออกแบบและผู้เชี่ยวชาญด้านสีของปอร์เช่ได้รังสรรค์สี Olive Neo ขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับ 911 Spirit 70 เป็นเฉดเขียวเข้มที่หรูหรา ที่ให้กลิ่นอายของความคลาสสิกแต่แฝงไว้ด้วยความทันสมัยอย่างมีรสนิยม เพื่อเพิ่มมิติและความโดดเด่นยิ่งขึ้น ปอร์เช่เลือกใช้สี Bronzite ซึ่งเป็นโทนเทา-ทอง (Grey-Gold) สำหรับการตกแต่งส่วนต่าง ๆ ของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นส่วนล่างของกันชนท้าย ด้านหน้ารถ และล้อ Sport Classic ดีไซน์แบบ ‘Fuchs’ ที่เป็นซิกเนเจอร์อันโด่งดังของแบรนด์ หลังคาผ้าใบเป็นสีดำ เช่นเดียวกับกรอบกระจกบังลมหน้า รับกับรายละเอียดโดยรวม เพิ่มความเฉียบคมให้กับภาพลักษณ์ของรถสปอร์ตเปิดประทุนรุ่นนี้อย่างลงตัว
บนฝากระโปรงหน้าของรถ ประดับด้วยแถบตกแต่งสามเส้นในสีดำแบบ Silk Gloss ซึ่งเป็นดีเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสติ๊กเกอร์เพื่อความปลอดภัยในยุค 1970s ยุคนั้นนักขับรถสปอร์ตมักติดแถบลายยาวตามตัวถัง เพื่อให้รถสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากกระจกมองหลัง โดยเฉพาะบนทางด่วนหรือในสนามแข่งที่ใช้ความเร็วสูง แถบตกแต่งนี้ถูกใช้ต่อเนื่องไปยังหลังคาผ้าใบแบบ Tone-on-Tone และยังมีกราฟิกด้านข้างตัวรถ พร้อมตัวอักษร Porsche และวงกลมหมายเลขสตาร์ท หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘Lollipop’ ในสีดำแบบ Silk Gloss พร้อมหมายเลขเฉพาะสำหรับแต่ละคัน หนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนความลงตัวระหว่าง “ประเพณี” และ “นวัตกรรม” ได้อย่างชัดเจน คือบริเวณกลางฝากระโปรงหน้าของ 911 Spirit 70 ซึ่งประดับด้วย ตราสัญลักษณ์ปอร์เช่ (Porsche Crest) ที่แทบจะถอดแบบมาจากดีไซน์คลาสสิกของปี 1963 บริเวณแก้มข้างของตัวรถยังมีตรา “Porsche Exclusive Manufaktur” สีทอง ซึ่งบ่งบอกถึงความพิถีพิถันในการผลิตระดับงานคราฟต์ ด้านหลังของตัวรถ บนกระจังฝาท้าย ติดตั้งตรา Porsche Heritage ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากตราสัญลักษณ์บนรถ ปอร์เช่ 356 (Porsche 356) ที่เคยมอบให้เมื่อรถผ่านระยะทาง 100,000 กิโลเมตร ในช่วงทศวรรษ 1950 อีกหนึ่งรายละเอียดสุดพิเศษคือ ตัวอักษร Porsche และชื่อรุ่นที่ด้านท้าย ที่มาในโทนสีทองสะท้อนแสง โดยผ่านกระบวนการเคลือบผิวด้วยทองชุบแบบกัลวาไนซ์ (Galvanised Gold-Plating) จนได้ความแวววาวงดงามอย่างเหนือระดับ
ไฮไลต์สำคัญภายในห้องโดยสารของ 911 Spirit 70 คือผ้าลวดลายคลาสสิก Pasha ในโทนสี ดำ/Olive Neo ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ลวดลายกราฟิกของผ้านี้ได้รับแรงบันดาลใจจากธงตราหมากรุกที่โบกสะบัดในสนามแข่ง สี่เหลี่ยมขนาดต่างกันที่จัดวางอย่างชาญฉลาดสร้างมิติความเคลื่อนไหวในลายผ้า แตกต่างจากการใช้ผ้า Jacquard Velour แบบดั้งเดิมในอดีต รุ่นนี้เลือกใช้สิ่งทอที่ผสานกับเส้นใยแบบ Flock Yarns ช่วยเสริมคาแรคเตอร์สปอร์ตให้เด่นชัดยิ่งขึ้น พร้อมมอบผิวสัมผัสที่นุ่มสบาย และความสะดวกสบายที่เหนือกว่า โดยเฉพาะในการเดินทางไกล ภายในห้องโดยสารของ 911 Spirit 70 ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันทุกองค์ประกอบ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ผสานความหรูหราเข้ากับกลิ่นอายแห่งความคลาสสิกอย่างสมบูรณ์แบบ
เบาะนั่งแบบ Sports Seats Plus ปรับได้ถึง 18 ทิศทาง มาพร้อมแผงกลางที่หุ้มด้วยผ้าลวดลาย Pasha ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่นเดียวกันกับที่ใช้ตกแต่งบนกระจกมองข้างด้านในประตู และแม้แต่ในกล่องเก็บของหน้ารถ ลูกค้ายังสามารถเลือกอัปเกรดเพิ่มเติม ด้วยการตกแต่งลวดลาย Pasha บริเวณด้านหลังพนักพิงเบาะ และบนแผงคอนโซลหน้า เป็นออปชันเสริมที่ช่วยยกระดับความพิเศษให้เหนือระดับขึ้นอีกขั้น ภายในตกแต่งด้วยหนังแท้ Club Leather สีดำบาซอลต์ (Basalt Black) เย็บตะเข็บด้วยด้ายสี Olive Neo เข้ากับธีมสีหลักของรถ โดย แพ็กเกจภายในหนังคลับนี้ถูกรวมไว้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน นอกจากนี้ พรมห้องสัมภาระด้านท้ายยังมาในแบบพลิกกลับได้ (Reversible Boot Mat) พร้อมลวดลาย Pasha เช่นกัน
ความพิเศษยังขยายไปถึงแผงหน้าปัดที่ออกแบบโดยผสานดีไซน์วินเทจเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย หน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด12.65 นิ้ว ออกแบบให้สื่อถึงความคลาสสิก มาพร้อมเข็มสีขาวและเส้นสเกลในรูปแบบอะนาล็อก ขณะที่ตัวเลขสีเขียวได้รับแรงบันดาลใจจากเรือนไมล์ของ Porsche 356 รุ่นในตำนาน สัญลักษณ์ชื่อรุ่นถูกบรรจงผสานอย่างประณีตลงในมาตรวัดรอบแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ (Fully Digital Rev Counter) ซึ่งเป็นฟีเจอร์เฉพาะสำหรับรุ่นนี้ เช่นเดียวกับนาฬิกาจับเวลารุ่นพิเศษของระบบ Sport Chrono ก็มาพร้อมเข็มสีขาวและตัวเลขสีเขียว ซึ่งเป็นดีไซน์เฉพาะสำหรับ 911 Spirit 70ปอร์เช่เตรียมนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ผ่าน แอปพลิเคชันสำหรับ Apple Vision Pro ที่จะพาผู้ใช้งานย้อนสู่บรรยากาศแห่งทศวรรษ 1970s และออกแบบรถในฝันของตนเองได้อย่างมีอิสระภายในแอป ผู้ใช้สามารถปรับแต่ง Porsche 911 Spirit 70 แบบทีละขั้นตอน พร้อมทั้งเรียนรู้แรงบันดาลใจและดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของยุคนั้นไปพร้อมกัน แอปพลิเคชันนี้จะเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีทาง App Store สำหรับ Apple Vision Pro ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2025 ซึ่งตรงกับช่วงเปิดตัว 911 Spirit 70