GAC International บริษัทในเครือของ Guangzhou Automobile Group Co., Ltd. (GAC Group) ได้ก้าวเข้าสู่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยการเปิดตัวกลยุทธ์ระดับโลก “ONE GAC 2.0” และประกาศแผน “ภารกิจประเทศไทย” (Thailand Action) ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 46 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ GAC International ในการยกระดับการดำเนินงานในประเทศไทย และในระดับโลก ผ่านแนวทางที่ให้ความสำคัญกับการ “ผลิตเพื่อท้องถิ่น โดยท้องถิ่น”
GAC International พลิกบทบาท “ผู้ส่งออก” สู่ “ผู้สร้างคุณค่าในตลาดโลก”จากอดีตที่ GAC Group เน้นเพียงการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก GAC International ได้ปรับเปลี่ยนบทบาทใหม่เป็น “ผู้สร้างระบบนิเวศในตลาดเป้าหมาย” ด้วยโมเดลธุรกิจแบบคู่ขนาน ได้แก่การส่งออก (Vehicle Export) การผลิตในพื้นที่ (Localized Manufacturing)การพัฒนาเครือข่ายบริการและโครงสร้างพื้นฐานพลังงาน (Service Networks and Energy Infrastructure Development)
GAC International เลือกประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นห่วงโซ่อุปทานที่ครบวงจร แรงงานที่มีทักษะสูงในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ และนโยบายภาครัฐที่มุ่งสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า โดย Mr. WAYNE WEI ประธานกรรมการบริหาร GAC INTERNATIONAL กล่าวว่า “เรามองเห็นศักยภาพมหาศาลของตลาดไทย ไม่เพียงแต่ในฐานะตลาดผู้บริโภค แต่ยังรวมถึงการเป็นฐานการผลิต การส่งออก และการพัฒนาเทคโนโลยีระดับภูมิภาค เราต้องการ ‘เติบโตไปพร้อมกับประเทศไทย’ อย่างแท้จริง” ในปัจจุบัน GAC International ได้วางรากฐานการดำเนินงานในกว่า 74 ประเทศ ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชีย, ตะวันออกกลาง, ยุโรป, แอฟริกา และ อเมริกาใต้ โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการ ส่งออกมากกว่า 500,000 คันภายในปี 2027 และก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ยานยนต์จีนที่ผู้บริโภคทั่วโลกไว้วางใจ
ภายใต้กรอบของ ONE GAC 2.0 GAC International ได้เปิดตัว “ภารกิจประเทศไทย” อย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง “ระบบนิเวศยานยนต์ครบวงจร” สำหรับตลาดไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในแง่ผลิตภัณฑ์ การผลิต การขาย และบริการหลังการขาย โดยมีไฮไลต์ดังนี้ด้านผลิตภัณฑ์ – GAC ได้เปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นใหม่ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย
AION UT: รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ มาพร้อมดีไซน์สไตล์มิลาน เทคโนโลยี L2+ และระบบความปลอดภัยระดับโลก
M8 PHEV: รถ MPV หรูระบบปลั๊กอินไฮบริด ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มครอบครัวและลูกค้าระดับผู้บริหาร
ช่องทางจัดจำหน่าย – ตั้งเป้าเปิดโชว์รูมใหม่ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น ด้วยหลักแนวคิด “ครบจบในที่เดียว” เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงและยกระดับประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ลูกค้า
บริการหลังการขาย – นำระบบ GSSW (GAC International Sales and Service Workflow) มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมระบบดิจิทัลที่ช่วยให้บริการโปร่งใสและรวดเร็ว เช่น แอปพลิเคชันดูสถานะการซ่อมบำรุงแบบเรียลไทม์
การผลิตอัจฉริยะ – โรงงาน GAC ในประเทศไทยเริ่มเดินสายผลิตตั้งแต่ปี 2024 โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับ “โรงงานอัจฉริยะต้นแบบ” ที่ประเทศจีน และตั้งเป้าดำเนินการผลิตเต็มกำลังภายในปลายปี 2026 และมีแผนส่งออกรถยนต์จากประเทศไทยไปสู่ตลาดในภูมิภาคอาเซียน
ระบบพลังงานและการเดินทาง – GAC มุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างครบวงจร เพื่อรองรับอนาคตแห่งการขับเคลื่อนพลังงานสะอาด แผน “100 เมือง 1,000 จุดชาร์จ” ภายในปี 2027 เริ่มจากสร้าง 25 สถานี 76 หัวชาร์จในปี 2025 ตั้งศูนย์บริการซ่อมแบตเตอรี่เชิงลึกแห่งแรกในกรุงเทพฯ ร่วมมือกับ Grab และพันธมิตรในประเทศ เพื่อยกระดับ “อีโคซิสเต็ม” ด้านการเดินทาง เปิดศูนย์ฝึกอบรมบุคลากร EV ร่วมกับมหาวิทยาลัยไทย เพื่อสร้างบุคลากรรองรับอุตสาหกรรมในอนาคต
GAC International ในประเทศไทย มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมในสังคมไทย ผ่านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ได้มุ่งเพียงยอดขายหรือการขยายฐานผู้ใช้เท่านั้น หนึ่งในความร่วมมือที่โดดเด่นคือ การสร้างศูนย์ฝึกอบรมด้านยานยนต์ไฟฟ้า (EV Training Center) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) จังหวัดนครราชสีมา โดย GAC International ได้ทำการ ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น AION Y Plus เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์การเรียนการสอน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างทักษะเชิงเทคนิคให้แก่นักศึกษา และปูรากฐานในการพัฒนาบุคลากรด้านอุตสาหกรรม EV ของประเทศไทยในระยะยาว นอกจากนี้ GAC ยังได้ร่วมมือกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ในการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาด ผ่านการก่อสร้าง สถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการภายใต้แผน “100 เมือง 1,000 จุดชาร์จ” โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และสร้างระบบนิเวศพลังงานที่มีความมั่นคงและยั่งยืน การลงทุนเชิงกลยุทธ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า GAC International ไม่เพียงเข้ามาทำธุรกิจ แต่ยังตั้งใจเป็น “พลเมืองที่ดีของสังคมไทย” พร้อมสนับสนุน การศึกษา พลังงานสะอาด และการจ้างงานในท้องถิ่น อย่างต่อเนื่อง