ปิดฉากความเร็วระดับเวิล์ดคลาสกับการแข่งขัน FIA Formula 3 Championship 2024 สนามที่ 10 ของ “เติ้น-ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์” นักแข่งรถฟอร์มูล่าชาวไทย จาก AAS Motorsport ลงแข่งขันภายใต้ทีม AIX Racing ณ สนามแข่งรถแห่งชาติมอนซา, ประเทศอิตาลี ที่ขึ้นชื่อในเรื่อง “วิหารแห่งความเร็ว” กับแทร็กที่มีความยาวและโค้งที่สามารถทำความเร็วได้อย่างน่าเหลือเชื่อ หนึ่งในสนามสุดท้าทายของนักแข่งทุกคน รวมถึง “เติ้น-ทัศนพล” ที่เริ่มเกมการแข่นขันด้วยการพารถสูตรหมายเลข 26 ลงสนามอุ่นเครื่องโดยสามารถทำความเร็วในรอบนี้ได้เป็นอันดับที่ 16 ก่อนลุยต่อในรอบคัดเลือก (Qualifying) เพื่อหาลำดับในการออกสตาร์ท ซึ่ง เติ้น ทัศนพล กดความเร็วทำเวลาสูงสุดในรอบนี้ไปได้ที่ 1:39.115
เมื่อถึงการแข่งขันในรอบสปริ้นต์ เรซ (Sprint Race) ก่อนปิดฤดูกาล “เติ้น-ทัศนพล” นักแข่งชาวไทย พารถแข่งหมายเลข 26 ออกสตาร์ทจากกริดที่ 6 โดยการแข่งขันในเรซนี้เป็นไปอย่างเข้มข้นดุเดือดตั้งแต่เริ่มเกมชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร โดยตลอดเกมทั้ง 17 รอบนั้น เติ้น ทัศนพล พยายามอย่างหนักที่จะแซงขยับอันดับขึ้น แต่ด้วยเกมความเร็วอะไรก็เกิดขึ้นได้กับสถานการณ์ที่พลิกไปพลิกมาทุกวินาที แม้จะทุ่มสุดเต็มกำลังแบบไม่ใส่เกียร์ถอยจนถึงรอบสุดท้าย นาทีที่ธงหมากรุกโบกสะบัด รถหมายเลข 26 ของนักแข่งไทยเข้าเส้นชัยจบการแข่งขันในอันดับที่ 21 อย่างน่าเสียดาย
มาถึงสนามปิดฉากความเร็ว Formula 3 ในรอบฟีเจอร์ เรซ (Feature Race) สำหรับสนามนี้ เติ้น ทัศนพล มีโอกาสให้ได้ลุ้นอันดับอยู่หลายจังหวะ หลังออกสตาร์ทในสนามนี้จากลำดับที่ 11 นักแข่งไทยสามารถรักษาอันดับเอาไว้ได้อย่างเหนือชั้น แม้จะถูกกดดันอย่างหนักจากทัพนักแข่งที่ต่างพยายามทำความเร็วขึ้นแซงอย่างไม่ลดละ เช่นเดียวกับนักแข่งไทยที่เร่งสปีดบู๊แหลกจนสามารถขยับทำอันดับสูงสุดในรอบนี้ได้อย่างต่อเนื่องบวกกับนาทีบีบหัวใจเมื่อรถแข่งหมายเลข 26 เสียจังหวะหลุดออกนอกแทร็ก ก่อนเสียอันดับออกจากกลุ่ม Top10 แต่หลังผ่านไปไม่กี่รอบ เติ้น ทัศนพล ก็คืนฟอร์มร้อนแรงไล่แซงสุดมันส์ทวงคืนอันดับถึง 4 คันรวดในช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน ก่อนพุ่งเข้าเส้นชัยไปในอันดับที่ 7 แต่เมื่อบวกเวลาตามโทษปรับ ส่งผลให้การแข่งขันในสนามสุดท้ายของ เติ้น ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ จบลงอันดับที่ 11 อย่างเป็นทางการ สรุปผลการแข่งขัน 2024 – Formula3 แรกของ เติ้น ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ สามารถรั้งอันดับที่ 24 (Overall) ด้วยคะแนนสะสม 9 คะแนน นับเป็นการเริ่มต้นที่ท้าทาย แต่เต็มด้วยประสบการณ์หลากหลายมิติในสนามแข่งระดับโลกให้กับนักแข่งดาวรุ่งของไทยได้เรียนรู้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับมาอย่างแข็งแกร่งมากขึ้นในฤดูกาลหน้า
