นายสุขุม ธรรมณีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยเร้นท์อะคาร์ โฮลดิ้ง ซึ่งมีธุรกิจในเครือครอบคลุมธุรกิจรถเช่าภายใต้ บริษัท ไทยเร้นท์อะคาร์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (Thai Rent A Car Corporation co.,ltd.) และเป็นผู้นำธุรกิจบริการรถยนต์เช่าในประเทศไทยมายาวนานกว่า 45 ปี อีกทั้งมีธุรกิจรถหรู Audi Thailand Ducati Thailand และดีลเลอร์ Mercedes Benz “Benz Star Flag” ที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งถึง 8 ปีซ้อน ในไทย นอกจากนั้นยังมีธุรกิจรถยนต์มือสอง ภายใต้แบรนด์ Car Hero หนึ่งใน 4 ยักษ์ใหญ่ธุรกิจรถยนต์มือสอง รวมถึงธุรกิจสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมอย่างจักรยานไฟฟ้า RYDE CULTURE และยังเป็นเจ้าของธุรกิจตัวแทน จำหน่ายอุปกรณ์กอล์ฟพรีเมียมจากญี่ปุ่น Eponเจ้าของธุรกิจครีเอทีฟเอเจนซี่ด้านการตลาด Audacity Bangkok เจ้าของรางวัล Asia Agency of the year แห่งปีจาก London International Awards ปี 2022 เปิดเผยว่า ด้วยฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างหลากหลาย ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ และจากความสำเร็จของทุกธุรกิจในปี พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา สามารถทำรายได้ทุกกลุ่มธุรกิจรวมกว่า 16,000 ล้านบาท ในปีนี้บริษัทจึงมีแผนที่จะผนึกกำลังทุกธุรกิจเพื่อขยายธุรกิจของบริษัทในเครืออย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะธุรกิจรถเช่า ไทยเร้นท์อะคาร์ ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตสูงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการขยายตัวของการท่องเที่ยวในประเทศไทย
สำหรับแผนการขยายธุรกิจรถเช่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยเร้นท์อะคาร์ โฮลดิ้ง เปิดเผยว่า ภายใต้ทีมผู้บริหารใหม่ล่าสุด นำโดย นายคมสิทธิ์ แสงมณี กรรมการผู้จัดการ ซึ่งมีประสบการณ์คร่ำหวอดในธุรกิจรถเช่ามายาวนาน ล่าสุดบริษัทฯได้มีการลงนามความร่วมมือกับ Enterprise Rent-A-Car ผู้นำตลาดรถเช่า อันดับ 1 จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ประสบความสำเร็จและเปิดให้บริการมายาวนานกว่า 65 ปี เพื่อขยาย ฐานกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวจากอเมริกา ที่ปัจจุบันนับเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่ติดอันดับ Top 5 ในประเทศไทย สำหรับในปี พ.ศ. 2567 จากกแผนการขยายธุรกิจแบบเต็มรูปแบบ การสนับสนุนของบริษัทในเครือ และการผนึกกำลังครั้งสำคัญกับ Enterprise Rent-A-Car ผู้นำตลาดรถเช่าอันดับ 1 คาดว่าจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้น 20% หรือมีรายได้ที่ 1,800 ล้านบาท พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดรถเช่าในประเทศไทยอย่าง เต็มรูปแบบ ทั้งนี้บริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มพื้นที่ให้บริการ เพื่อพร้อมให้บริการรวม 15 สาขา ทั่วประเทศ พร้อมเพิ่มจำนวนรถคุณภาพ เพื่อพร้อมให้บริการรวมกว่า 1,500 คัน ส่งผลให้บริษัทสามารถให้บริการลูกค้าทั้งผู้เช่าในประเทศไทยและต่างประเทศได้อย่างทั่วถึงรวมกว่า 400,000 ราย
