“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เดินหน้ากิจกรรม “ชุบชีวิต – ส่งต่อเฟอร์นิเจอร์” มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าในกิจกรรมการตลาด พร้อมนำอุปกรณ์ตกแต่งจากงานอีเวนต์ มาดัดแปลงเป็นอุปกรณ์เพื่อการใช้งานของโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล โดยได้ส่งต่อเฟอร์นิเจอร์แก่ 5 โรงเรียนจาก 5 ภูมิภาคในครึ่งปีแรก พร้อมดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องในกิจกรรมการตลาดทั่วประเทศ ตอกย้ำพันธกิจหลักในการพัฒนาสังคมควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
นายพรเทพ ถิรสุนทรากุล ผู้บริหารสายงานการตลาด ธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ด้วยกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ผ่านแนวคิด #เลิกรอ ซึ่งมุ่งจุดประกายให้ทุกคนลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองและโลก โดยไม่ต้องรอให้โอกาสมาถึง กรุงศรี ออโต้ จึงให้ความสำคัญกับการเริ่มต้นลงมือทำเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคและสังคม โดยหนึ่งในเป้าหมายของเราคือ การใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกกระบวนการธุรกิจ ในช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา เราได้เริ่มปรับแนวคิดในการให้บริการสินเชื่อในอีเวนต์ยานยนต์ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมการตลาดหลักของกรุงศรี ออโต้ และจัดขึ้นไม่น้อยกว่า 20 ครั้งในแต่ละปี โดยได้ออกแบบบูธภายใต้แนวคิด ‘Sustainability in Everyday Life (คุณค่าที่สร้างสรรค์ เพื่อทุกวันที่ยั่งยืน)’ ซึ่งคำนึงถึงการใช้วัสดุที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด รวมทั้งได้วางแผนในการดัดแปลง และส่งต่ออุปกรณ์ต่างๆ ที่ไม่สามารถนำไปใช้ต่อได้ในงานถัดไป ให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า”
การใช้วัสดุทดแทนเป็นแนวทางหนึ่งที่ กรุงศรี ออโต้ เลือกใช้ อาทิ โต๊ะที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ทดแทนไม้ จากการรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่มใช้แล้ว และเก้าอี้ที่มีส่วนประกอบจากยางรถยนต์เก่าและสปริงโช้คเก่า ซึ่งสามารถช่วยลดการผลิตก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์จากการผลิตไม้ใหม่ รวมถึงลดปริมาณขยะจากยางรถและขยะโลหะ ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้ออกแบบเคาน์เตอร์และตู้เก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้สามารถดัดแปลงเป็นตู้เก็บของสำหรับใช้งานในโรงเรียนอีกด้วย
จากการริเริ่มโครงการดังกล่าว กรุงศรี ออโต้ ได้บริจาคเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด ได้แก่ โต๊ะ 26 ตัว เก้าอี้ 80 ตัว ตู้เก็บหนังสือ 11 ตู้ และตู้เก็บของ 4 ตู้ รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท ให้แก่โรงเรียนขนาดเล็ก 5 โรงเรียน ที่ได้แจ้งความประสงค์ขอความช่วยเหลือผ่านเฟสบุคเพจ “โครงการช่วยเหลือโรงเรียนยากจนในถิ่นทุรกันดาร” ได้แก่ โรงเรียนบ้านวังมน จังหวัดลำพูน โรงเรียนบ้านวังกระโดนใหญ่ จังหวัดนครสวรรค์ โรงเรียนบ้านกุดโจด จังหวัดยโสธร โรงเรียนบ้านหนองหว้า (ถนอมราษฎร์บำรุง) จังหวัดฉะเชิงเทรา และโรงเรียนวัดท้ายทะเล จังหวัดนครศรีธรรมราช
