ปอร์เช่ และทีมแข่งอิสระ ทีม Manthey ลงสนามการแข่งขันระยะยาวในภูมิภาค Eifel รายการแข่งขัน 24 ชั่วโมง บนสนาม Nürburgring เพื่อไล่ล่าศึกเพื่อคว้าชัยชนะด้วยรถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 R จำนวน 8 คัน ในฐานะแชมป์เก่าของสงครามความเร็วระดับตำนาน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยฤดูกาลนี้ จัดขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 50 ครั้งของการแข่งขันในปีนี้ รวมทั้งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่ทรหด และท้าทายที่สุดในโลก ด้วยระยะทางต่อรอบคือ 25.378 กิโลเมตร บนเส้นทางที่ผสมผสานกันระหว่างถนนในแถบ Nordschleife และสนามกรังด์ปรีซ์ นับเป็นอีกครั้งที่รถแข่งจากปอร์เช่ยกขบวนเข้าร่วมระเบิดศึก พร้อมขุนพลตัวแรงกว่า 46 คันจากบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตที่มีฐานบัญชาการตั้งอยู่ในสตุ๊ทการ์ท ลงชิงชัยบนรายการแข่งขันสุดคลาสสิกเมื่อวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมาในเวลา 4 pm (เวลามาตรฐานยุโรปกลาง CEST) ถือเป็นการจารึกประวัติศาสตร์แห่งเกียรติยศซึ่งไม่เคยมีผู้ผลิตรายใดที่สามารถนำรถลงสนามแข่งได้มากมายขนาดนี้จากท่ามกลางบรรดาคู่ต่อสู้ทั้งหมด 138 คัน
สำหรับฤดูกาลที่แล้ว ทีมแข่งอิสระ Manthey คว้าชัยชนะได้ถึงเจ็ดรุ่นในการแข่งขันบนภูมิภาค Eifel จากฝีมือการขับรถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 R ของ Grello จากทีมของ Kévin Estre ประเทศฝรั่งเศส และ Michael Christensen ประเทศเดนมาร์กรวมทั้ง Matteo Cairoli ประเทศอิตาลี สำหรับการแข่งขันรายการ 24 ชั่วโมงที่ในครั้งนี้ มีทีมแข่งจากเมือง Meuspath ในฐานะแชมป์เก่าที่ยังคงไว้วางใจและส่งทีมงานนักขับหน้าเดิมมาประจำการในรถแข่งหมายเลข 1 นั่นคือ Estre และ Christensen ที่ลงสนามด้วยรถแข่งสีเขียวคาดสีเหลือง และมีนักแข่งจากสังกัดทีมโรงงาน Frédéric Makowiecki ประเทศฝรั่งเศส พร้อมด้วย Laurens Vanthoor ประเทศเบลเยียม เข้ามาเสริมทัพ และนอกจากทีมแข่ง Manthey แล้วยังมีทีมแข่งอิสระจาก Huber Motorsport ทีม KCMG และทีม Toksport WRT ส่งรถแข่ง GT3 จาก Weissach ลงสนามทีมละ 1 คัน ในส่วนของทีม Dinamic Motorsport และทีม Falken Motorsports ได้ส่งรถแข่ง 911 ตัวแรงระดับ 500 แรงม้าเข้าร่วมการแข่งขันทีมละ 2 คันอีกด้วยเช่นกัน
การแข่งรอบจัดอันดับ 2 ครั้งก่อนของรายการ Nürburgring 24 ชั่วโมง และ 2 สนามแรกของรายการ Nürburgring Endurance Series บรรดานักแข่งได้รับโอกาสของตนเองในการทำเวลาต่อรอบให้เร็วที่สุด เพื่อการจัดอันดับในการออกสตาร์ท 19 คันแรก เช่นเดียวกับรถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 R จากทีม Manthey และทีม Huber Motorsport ซึ่งสามารถรักษาตำแหน่งเอาไว้ได้ด้วยการผ่านเข้ารอบ Top Qualifying ใน session แรกของรอบ ด้วยรถแข่งปอร์เช่สองคันจากทีม Dinamic Motorsport และ Falken Motorsports รวมทั้งทีมแข่งอิสระ KCMG และ Toksport WRT ยังคงเอาตัวรอดผ่านเข้ามาในการแข่งขันจัดอันดับรอบสุดท้ายได้ในการแข่งขันเมื่อช่วงเย็นของวันศุกร์ 27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการแข่งขัน session ที่ 2 ของรอบ Top Qualifying โดยนักแข่งที่เหลือทั้งหมดจะต้องลงสนาม Nürburgring-Nordschleife อีก2 รอบ เพื่อทำเวลาของพวกเขาให้ดีที่สุด