นิสสันประกาศเข้าร่วมแคมเปญ Race to Zero ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติ เพื่อเร่งสู่เป้าหมายการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ และลดคาร์บอนเป็นศูนย์ (carbon neutrality) ซึ่งนิสสันเป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายแรกที่เข้าร่วมแคมเปญนี้ นอกจากนี้ นิสสันยังได้ลงนามในปฏิญญาความร่วมมือในโครงการ “Business Ambition for 1.5°C” ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของนิสสัน ที่จะช่วยควบคุมอุณหภูมิทั่วโลกไม่ให้สูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียสจากอุณหภูมิก่อนยุคอุตสาหกรรม (pre-industrial levels) นิสสันเข้าร่วมโครงการกำหนดเป้าหมายโดยอิงหลักวิทยาศาสตร์นี้ (Science Based Targets initiative: SBTi) ตามเกณฑ์ที่กำหนดให้ลดการปล่อยคาร์บอนให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส โดย SBTi ทำการตรวจสอบนิสสันเพื่อรับรองว่าได้ลดการปล่อยคาร์บอนตามหลักภูมิอากาศวิทยา
ในปี 2553 นิสสันได้เปิดตัว นิสสัน ลีฟ (LEAF) รถยนต์ไฟฟ้าออกสู่ตลาดเป็นรายแรกของโลก ท่ามกลางกระแสของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก นิสสันสร้างสรรค์นวัตกรรม และความตื่นเต้นเร้าใจให้กับการขับขี่ที่ไร้มลพิษ ต้นปีที่ผ่านมา นิสสันให้คำมั่นว่าจะบรรลุสู่เป้าหมายลดคาร์บอนเป็นศูนย์ ผ่านการดำเนินงานและวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้ได้ภายในปี 2593 นิสสันขับเคลื่อนเป้าหมายนี้ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการ Nissan EV36Zero ซึ่งเป็นโครงสร้างการผลิตรูปแบบใหม่ที่รวมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า การผลิตแบตเตอรี่ ไปจนถึงการผลิตพลังงานหมุนเวียน เข้าไว้ด้วยกัน
หัวใจสำคัญของแผนลดคาร์บอนเป็นศูนย์ของนิสสัน ได้แก่ การนำเสนอรถยนต์และเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบันที่มีการขยายไปจนถึงเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ เอกสิทธิ์เฉพาะจากนิสสัน และนิสสัน อริยะ รถยนต์ไฟฟ้า 100% ครอสโอเวอร์ ทั้งนี้นิสสันวางแผนให้รถยนต์รุ่นใหม่ ที่จะออกสู่ตลาดสำคัญ อย่าง ญี่ปุ่น จีน สหรัฐอเมริกา และยุโรป ภายในต้นทศวรรษ 2030 ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ทั้งหมด เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา นิสสันได้ประกาศถึงความมุ่งมั่นระยะยาวที่จะร่วมในการแข่งขัน ABB FIA Formula E World Championship จนถึงสิ้นสุดฤดูกาลที่ 12 ปี 2025-2026 (พ.ศ.2568-2569) ซึ่งจะนำความตื่นเต้นเร้าใจและความสนุกสนานของรถยนต์ไฟฟ้าแบบไร้มลพิษมาสู่ผู้ชมทั่วโลก
เพื่อเป็นการเร่งจุดประกายให้กับการเดินทางครั้งนี้ ล่าสุดนิสสันได้เปิดตัวโครงการ Nissan EV36Zero ซึ่งเป็นแนวทางสำหรับอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ ศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเรือธงแห่งใหม่ มูลค่า 1 พันล้านปอนด์ในสหราชอาณาจักร แสดงให้เห็นถึงแนวทางแบบ 360 องศาสู่การลดคาร์บอนเป็นศูนย์ของนิสสัน โดยการนำเอารถยนต์ไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน และการผลิตแบตเตอรี่มารวมไว้ด้วยกัน เพื่อเร่งสู่การลดคาร์บอนเป็นศูนย์ นอกเหนือไปจากการพัฒนายานยนต์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ แล้ว นิสสันจะยังคงทำงานร่วมกับพันธมิตรทั่วโลกในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาระบบนิเวศไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งครอบคลุมไปถึงการผลิตพลังงานหมุนเวียน การกักเก็บพลังงาน การนำแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ากลับมาใช้ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 และการพัฒนาโมเดลธุรกิจแบบ ‘4R’ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งประกอบไปด้วย Reuse (การใช้ซ้ำ) Refabricate (การสร้างหรือผลิตจากวัสดุหลายชนิดรวมกันใหม่) Resell (การขายต่อ) Recycle (การแปรรูปแล้วกลับมาใช้ใหม่) เพื่อคุณประโยชน์แก่ชุมชน