สรยท.จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีนายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ Thai Automotive Journalists Association : TAJA เป็นประธาน พร้อมเปิดแผนการทำงานของปีที่ 2 มุ่งยกระดับความเข้มข้นของทุกกิจกรรมขึ้นจากปีที่ผ่านมาให้สอดคล้องกับบริบทการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ เดินหน้าจัดงานรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 โดยทุกกิจกรรมล้วนยึดผลประโยชน์ที่ทางสมาคมฯ และสมาชิกของสมาคมฯ จะได้รับผ่านทางกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ อันหลากหลายเพื่อเสริมแกร่งทักษะวิชาชีพสื่อมวลชนสายยานยนต์ และส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย พร้อมขอบคุณสมาชิกสมาคมที่เข้าร่วมประชุมคับคั่ง และให้การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ที่สมาคมจัดขึ้นมาโดยตลอด
นายสุรศักดิ์ จรินทร์ทอง นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ สรยท. เปิดเผยว่า “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสมาชิก ที่มองเห็นความสำคัญของการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 ของทางสมาคมฯ ซึ่งในปีนี้ มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมถึง 145 คน แน่นอนว่านอกเหนือจากการรายงานการทำงานของคณะกรรมการวาระปี 2567-2569 ในช่วงปีแรกแล้ว ในโอกาสเดียวกันสมาคมฯ ยังประกาศแผนในการทำงานของปีที่ 2 ออกมาอีกด้วย โดยยังยึดหลักในเรื่องที่ยึดผลประโยชน์ที่ทางสมาคมฯ และสมาชิกของสมาคมฯ จะได้รับผ่านทางกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ ทั้งการสัมมนาเชิงวิชาการ และโปรเจกต์ฝึกอบรมต่างๆ ที่สมาคมฯ จะจัดขึ้นมาเพื่อเพิ่มพูนทักษะในหลายๆ ด้านให้กับสมาชิก ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจสื่อยุคปัจจุบัน นอกจากนั้น ในเรื่องของการจัดงาน THAILAND CAR OF THE YEAR, THAILAND EV OF THE YEAR และ THAILAND MOTORCYCLE OF THE YEAR ปี 2025 นั้น ทางสมาคมฯ ได้เร่งกระบวนการทำงานให้เร็วขึ้น พร้อมกับมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการคัดเลือกและตัดสินขึ้นมาทำงานจำนวน 26 ท่าน ในการพิจารณาถึงกฎและกติกาที่จะใช้ในการคัดเลือกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เข้าเกณฑ์ ซึ่งในปี 2025 นี้ ทางคณะอนุกรรมการมีความเห็นตรงกันในการพิจารณาถึงการปรับปรุงกฎระเบียบที่จะให้มีการครอบคลุมถึงรถที่ “ปรับโฉม” หรือ “Minor Change” ด้วย แต่จะต้องมีกรอบในการพิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดกำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ รถยนต์ใหม่ที่เป็นโมเดลเชนจ์ยังเข้าเกณฑ์เหมือนเดิม แต่เราคิดว่าจะต้องเพิ่มหัวข้อเพื่อเปิดโอกาสรถยนต์รุ่นปรับโฉมมีสิทธิ์ที่จะได้รับการพิจารณา แต่ทั้งนี้ในกรอบการพิจารณาจะมีความเข้มงวดกว่าด้วยการกำหนดให้รถยนต์รุ่นปรับโฉมจะต้องมีความเปลี่ยนแปลง 3 ใน 5 หัวข้อที่ทางอนุกรรมการตั้งเอาไว้ นั่นคือ ระบบขับเคลื่อน (Powertrain), ความเปลี่ยนแปลงภายนอกหรือภายใน (Exterior/Interior) ระบบความปลอดภัย (Safety System) นวัตกรรมที่น่าสนใจ (Innovation System) และระดับค่ามลพิษที่ลดลง-ความประหยัดน้ำมันที่เพิ่มขึ้น (Emission/Fuel Consumption) ซึ่งเกณฑ์ในแต่ละหัวข้อ ทางอนุกรรมการปีนี้กำลังเร่งทำงานในการกำหนดเป็นกรอบในการพิจารณา และจะมีการประกาศอีกครั้งในเร็วๆ นี้”
ด้านนายสุรมิส เจริญงาม อุปนายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย กล่าวว่า การจัดงานรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 หรือ THAILAND CAR EV & MOTORCYCLE OF THE YEAR 2025 ในปีนี้ยังยึดหลักการเดิมในการพิจารณาคัดเลือกตามที่เคยถือปฏิบัติมา แต่ในปีนี้คณะอนุกรรมการฯ ได้หยิบยกประเด็นพิจารณาถึงการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบที่จะให้มีการครอบคลุมถึงรถยนต์รุ่น “ปรับโฉม” (Minor Change) โดยเพิ่มหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกให้มีความเหมาะสมเป็นธรรมกับรถทุกรุ่น “การคัดเลือกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2568 ยังยึดระยะเวลารถที่เปิดตัวในช่วง 1 ตุลาคม 2567 – 30 กันยายน 2568 พร้อมเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการสู่ตลาด นอกจากนี้ต้องเป็นไปตามกติกาที่คณะอนุกรรมการกำหนด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับแก้กติกาเงื่อนไขการคัดเลือก รถที่จะเข้าร่วมรับรางวัลให้สอดคล้องกับทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเข้ามามีบทบาทกับตลาดรถยนต์ในบ้านเราเป็นอย่างมาก”