ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2020 สนามสุดท้าย รายการ โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน ที่อัลการ์ฟ อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต เมืองปอร์ติเมา ประเทศโปรตุเกสเป็นอีกเรซที่น่าสนใจ เพราะเดินทางมาแข่งขันที่สนามแห่งนี้เป็นครั้งแรก โดย คาล ครัทช์โลว นักบิดอังกฤษจาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า มีลุ้นโพเดียมหลังได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 4 รวมถึง สเตฟาน แบรเดิล นักบิดทดสอบชาวเยอรมันจาก เรปโซล ฮอนด้า จะเริ่มเกมจากกริดที่ 6 ด้าน ทาคาอากิ นาคากามิ นักบิดญี่ปุ่นจาก แอลซีอาร์ ฮอนด้า และรุกกี้ชาวสแปนิชอย่าง อเล็กซ์ มาร์เกซ จาก เรปโซล ฮอนด้า ได้ออกตัวในกริดที่ 11 และ 16 ตามลำดับ
ผลการแข่งขันเรซนี้ นาคากามิ ไล่บี้คู่แข่งอย่างสุดมันส์ ก่อนเข้าวินในอันดับ 5 ตามหลังแชมป์เพียง 13.318 วินาที ส่วน แบรเดิล โชว์ฟอร์มดุบิดเข้าป้ายในอันดับ 7 นับเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเขาเองในปีนี้ ด้าน อเล็กซ์ มาร์เกซ และ ครัทช์โลว จบเรซในอันดับ 9 และ 13 ส่งท้ายฤดูกาลนี้
ปิดฉากโมโตจีพี 2020 หลังดวลกัน 14 เรซ ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 นาคากามิ เป็นนักบิดฮอนด้าที่สร้างผลงานได้ดีที่สุด รั้งอันดับ 10 บนตารางแชมเปียนชิพ มีทั้งสิ้น 116 คะแนน ตามด้วย อเล็กซ์ มาร์เกซ ในอันดับ 14 มี 74 คะแนน ด้าน ครัทช์โลว และ แบรเดิล จบปีนี้ในอันดับ 18-19 มีคนละ 32 และ 27 คะแนน ขณะที่ ฮอนด้า รั้งอันดับ 5 บนตารางแชมเปียนชิพประเภททีมผู้ผลิต เก็บไปทั้งสิ้น 144 คะแนน
ด้าน “คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” เจ้าของหมายเลข 35 ของ อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย แม้จะเจองานหนักในสนามสุดท้ายของโมโตทู ด้วยการออกตัวจากกริดที่ 27 แต่นักบิดไทยยังทะยานขึ้นมาสูงสุดที่อันดับ 16 ก่อนปิดฉากสนามสุดท้ายในปีนี้ ด้วยการพารถแข่งเข้าป้ายในอันดับ 18 สรุปผลงานปีนี้ สมเกียรติ เก็บไปได้ทั้งสิ้น 10 คะแนน รั้งอันดับ 25 บนตารางแชมเปียนชิพ นับเป็นฤดูกาลที่นักบิดไทยมีพัฒนาการด้านความเร็วแบบก้าวกระโดด จนได้รับโอกาสจากฮอนด้า ในการแข่งขันโมโตทูฤดูกาลหน้าร่วมกับทีม เพื่อสร้างความสำเร็จในอาชีพนักบิดต่อไป
