มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เริ่มใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในสายการผลิตรถยนต์อย่างเป็นทางการ ที่ศูนย์การผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ตอบรับแผนปฏิบัติการใหม่ด้านสิ่งแวดล้อม (The New Environmental Plan Package) ระยะยาว 30 ปี ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น พร้อมวางแผนขยายการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในเฟสต่อไปที่โรงพ่นสีแห่งใหม่ ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมทุกโครงการมากกว่า 6,100* ตันต่อปี มุ่งเสริมสร้างกระบวนการการผลิตรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถือเป็นอีกขั้นของปฏิบัติการด้านสิ่งแวดล้อม ภายหลังการประกาศออกแบบโรงงานพ่นสีแห่งใหม่ที่ช่วยลดการปล่อย VOCs ในกระบวนการผลิต และการเปิดตัวรถยนต์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี รถเอสยูวีพลังไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริดระดับพรีเมี่ยม สมรรถนะสูงแต่ปล่อยมลพิษต่ำใน ประเทศไทย
สำหรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่นำมาใช้ในกระบวนการผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ ที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี นี้เป็นส่วนหนึ่งภายใต้สัญญาจำหน่ายไฟฟ้ากับบริษัท อิมแพคท์ โซล่าร์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (ISGT) ที่ทำหน้าที่ในการเป็นผู้ติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาโรงงานที่มีกำลังการผลิตถึง 5 เมกกะวัตต์ โดยโครงการดังกล่าวจะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 4,300* ตัน ต่อปี
การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในกระบวนการผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ ที่ศูนย์การผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ถือเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการภายใต้แผนปฏิบัติการใหม่ด้านสิ่งแวดล้อม (The New Environmental Plan Package) ระยะยาว 30 ปี ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ที่ให้ความสำคัญต่อการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ ปฏิบัติการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Action to Climate Change) ปฏิบัติการด้านการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน (Resource Circulation) และปฏิบัติการด้านการลดหรือกำจัดการเกิดมลพิษ (Pollution Prevention) โดยวางเป้าหมายร่วมเป็นส่วนหนึ่งสู่อนาคตของการสร้างสังคมที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ในปี พ.ศ. 2593 ด้วยแผนการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 40% จากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และอีก 40% จากการดำเนินธุรกิจของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น และการเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 50% จากยอดจำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิทั้งหมดในปี พ.ศ. 2573