ไพโรเวฟ บริษัทสัญชาติแคนาดา ได้ประกาศการทำข้อตกลงร่วมพัฒนากับกลุ่มมิชลิน ทั้งนี้ เทคโนโลยีที่ ไพโรเวฟ พัฒนาขึ้นช่วยให้เกิดความเป็นไปได้ที่จะผลิตสไตรีนรีไซเคิล (Recycled Styrene) จากพลาสติกที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์ แผ่นฉนวนกันความร้อน และ/หรือเครื่องใช้ในครัวเรือนต่างๆ สไตรีนที่ได้จากการรีไซเคิลนี้เป็น‘โมโนเมอร์’ (Monomer) ที่สำคัญชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้ในการผลิตโพลีสไตรีน (Polystyrene) และยางสังเคราะห์สำหรับยางล้อและสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวนมาก ข้อตกลงร่วมพัฒนาระหว่าง มิชลิน และ ไพโรเวฟ ครั้งนี้จะส่งผลต่อการนำห่วงโซ่คุณค่าใหม่ๆ ไปใช้ในระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนด้านพลาสติก ส่งผลให้เกิดความเป็นไปได้ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่หรือการผลิตสินค้าใหม่ๆ จากพลาสติกรีไซเคิลในภาคยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ หรือยางล้อ
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยี ไพโรเวฟ ช่วยให้สามารถรีไซเคิลพลาสติกด้วยการใช้คลื่นไมโครเวฟ เทคโนโลยีนี้แตกต่างจากกระบวนการทางความร้อน (Thermal Process) ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะช่วยรีไซเคิลขยะพลาสติกให้กลายเป็นวัตถุดิบคุณภาพสูงด้วยการใช้กระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็นรูปแบบพลังงานที่ปัจจุบันมีศักยภาพในการกำจัดคาร์บอนได้สูงสุด นอกจากเทคโนโลยีดังกล่าวจะมีความเที่ยงตรงกว่าเทคโนโลยีทั่วไปแล้ว ยังให้ผลผลิตในปริมาณสูงกว่าซึ่งสามารถนำมาใช้แทนวัตถุดิบตั้งต้นจากน้ำมันหรือก๊าซ
มิชลิน และ ไพโรเวฟ จะทำงานร่วมกันตลอดระยะเวลาหลายเดือนข้างหน้าเพื่อผลักดันเทคโนโลยี ไพโรเวฟ เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมอย่างเร่งด่วน โดยมีเป้าหมายที่จะได้รับใบรับรองและเปิดตัวทำตลาดเชิงพาณิชย์ในตลาดต่างๆ ทั่วโลก ข้อตกลงการร่วมพัฒนานี้ซึ่งใช้งบลงทุนทั้งสิ้นมากกว่า 20 ล้านยูโร จะผสานความเชี่ยวชาญของ ไพโรเวฟ เข้ากับทักษะความชำนาญทางอุตสาหกรรมของมิชลิน เพื่อผลักดันให้การตรวจสอบยืนยันเทคโนโลยีดังกล่าวและการออกใบรับรองผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ทีมงานด้านเทคนิคของมิชลินจะทำงานร่วมกับทีมงานด้านเทคนิคของ ไพโรเวฟ เพื่อพัฒนาชุดสาธิตทางอุตสาหกรรมขึ้นภายในปี 2566 โดยมิชลินจะเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนและดำเนินการทดลองชุดสาธิตดังกล่าว ทั้งนี้ เทคโนโลยีดังกล่าวจะเป็นไปตามมาตรฐานขั้นสูงสุดที่กลุ่มมิชลินกำหนดในด้านความปลอดภัย การดำเนินงาน และสมรรถนะ