• News
  • Newcar
  • Review
  • Worldcar
  • Usedcar
  • Motorcycle
  • History
  • Knowledge
Trending
  • มาสด้าเปิดพิพิธภัณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่ให้แฟนเข้าชมในเดือนพฤษภาคม
  • “LAMBORGHINI CLUB THAILAND TRACK DAY  Drift and Track Basic Course”
  • “เบนซ์ไพรม์มัส” มอบเงิน 500,000 บ.ให้แก่ รพ.คามิลเลียน
  • CARS24 เปิดเคล็ดลับวิธีดูรถมือสองแบบมืออาชีพด้วยตัวเอง
  • Mercedes-AMG Team Craft-Bamboo Racing จบ P2 ที่บาเทิร์สต์ 12 ชั่วโมง
  • “เลกัวน่า” ซิวที่ 6 เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ สนาม 3 เก็บแต้มสำคัญให้ ฮอนด้า
  • สแกนเนียปรับกลยุทธ์รุกธุรกิจสินเชื่อ
  • “วิเออเฮร์” คว้าท็อปไฟว์เรซแรก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ สนาม 3
วันอังคาร, 24 พฤษภาคม
  • ติดต่อเรา : 0819134292
  • อีเมล์ : aphichaik@hotmail.com
ข่าวรถยนต์ ข่าวยานยนต์
  • News
  • Newcar
  • Review
  • Worldcar
  • Usedcar
  • Motorcycle
  • History
  • Knowledge
ข่าวรถยนต์ ข่าวยานยนต์

ปอร์เช่ คาเยนน์ เสริมสมรรถนะด้วยปลั๊ก-อิน ไฮบริด

0
By admin on มกราคม 12, 2020 Review

ครั้งแรกในการเปิดตัวในเมืองไทยปอร์เช่ คาเยนน์ ได้รับความนิยมมากเพราะค่าตัวตอนนั้นอยู่ที่ 5 ล้านบาทเท่านั้นเอง พอมีการปรับในเรื่องภาษีราคาก็ขยับตัวสูงขึ้นไปเรื่อยๆทำให้ไม่สามารถคบหากับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ได้  แต่ในปัจจุบันพละกำลังไม่ได้ขึ้นอยู่กับความจุของเครื่องยนต์อีกต่อไป เพราะ คาเยนน์ ได้รับกำลังเสริมจากมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้เครื่องยนต์แค่ 3.0 ลิตรก็สามารถพาตัวถังใหญ่ๆพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วและสามารถกดราคาลงต่ำได้ในระดับ 7.5 ล้านบาทได้อีกด้วย

คาเยนน์ อี-ไฮบริด คือหนึ่งในผลงานอันเป็นตัวแทนที่แสดงออกถึงทิศทางการพัฒนายานพาหนะ พลังงานไฟฟ้าในอนาคตของปอร์เช่ ประจำการด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายในสมรรถนะสูง ซึ่งผ่านการปรับแต่งจนมีกำลัง สูงสุดเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมถึง 7 แรงม้า กับเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด340 แรงม้า เสริมพลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อีก136 แรงม้า ทำให้มีกำลังสูงสุดรวมกว่า 462 แรงม้า  พร้อมแรงบิดสูงสุดถึง 700 นิวตันเมตร พร้อมนำพุ่งทะยานทันทีที่เหยียบคันเร่ง

การออกแบบระบบเสริมสมรรถนะได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจากรถซูเปอร์สปอร์ต ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ ที่ถูกนำมาใช้อย่างลงตัว เพื่อให้มั่นใจว่ามอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเมื่ออยู่ภายใต้โปรแกรมการขับขี่ทุกรูปแบบของชุดแต่งสปอร์ตโครโน ซึ่งติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นั่นหมายความว่าแรงบิดสูงสุดจะพร้อมตอบสนองต่อการบังคับควบคุมทุกครั้งที่สัมผัสคันเร่ง จึงสามารถสนุกสนานกับอัตราเร่งและแรงบิดมหาศาลในทุกรอบความเร็ว กำลังสำรองที่เหลือจากมอเตอร์ไฟฟ้าจะถูกเก็บสะสมเอาไว้ในแบตเตอรี่ระหว่างการเดินทางโดยขึ้นอยู่กับโปรแกรมการขับขี่ที่เลือกใช้งานขณะนั้น โหมด Sport และ Sport Plus เน้นการดึงสมรรถนะตัวรถออกมาจนถึงขีดสุด พลังงานจากแบตเตอรี่ทั้งหมดจะได้รับการนำมาใช้เพื่อสร้างอัตราเร่ง สำหรับโหมด Sport การชาร์จแบตเตอรี่จะเกิดขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการเสริมพละกำลัง ในส่วนของโหมด Sport Plus แบตเตอรี่จะได้รับการชาร์จอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โหมดการขับขี่อื่นๆ นั้นเหมาะสมกับลักษณะการขับขี่ที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน เชื้อเพลิงสูงสุด อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 5.0 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดถึง 253 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถเดินทางได้ 441 กิโลเมตรและทำความเร็วได้ถึง 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

แบตเตอรี่ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเพื่อเพิ่มความจุในการเก็บสะสมพลังงาน เสริมขีดความสามารถทั้งในแง่ของพิสัยระยะการเดินทางและพละกำลังสำรองยามที่ต้องการอัตราเร่ง เมื่อเปรียบเทียบกับคาเยนน์รุ่นก่อนหน้า พบว่าความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นจาก 10.8 เป็น 14.1 กิโลวัตต์ชั่วโมงหรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์  การระบายความร้อนแบตเตอรี่ด้วยระบบ fluid-cooled ที่ติดตั้งลงบริเวณพื้นตัวถังด้านท้ายของรถ  ประกอบด้วยโมดูลพลังงาน 8 ชุด ในแต่ละโมดูลคือเซลล์ prismatic lithium ion จำนวน 13 เซลล์ สามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มความจุภายในระยะเวลา 7.8 ชั่วโมง ด้วยแรงดันไฟฟ้า 230 โวลต์ ผ่านสายต่อขนาด 10 แอมป์ ในกรณีที่ใช้อุปกรณ์พิเศษ on-board charger 7.2 กิโลวัตต์ ด้วยไฟฟ้าแรงดัน 230 โวลต์ ผ่านสายต่อขนาด 32 แอมป์ ระบบชาร์จมาตรฐานแบบ 3.6 กิโลวัตต์แบตเตอรี่จะได้รับการชาร์จพลังงานจนเต็มความจุภายในระยะเวลาเพียง 2.3 ชั่วโมงเท่านั้น

การชาร์จพลังงานสามารถควบคุมและตรวจสอบผ่านระบบ PorscheCommunication Management (PCM) พร้อมสั่งรระบบปรับอากาศจาก Porsche Connect app ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มอุณหภูมิหรือลดอุณหภูมิในขณะปิดสวิทช์กุญแจ สามารถเลือกเชื่อมต่อด้วยโทรศัพท์มือถือได้ตามต้องการ นอกจากนี้ระบบ Porsche Connect ยังรองรับการค้นหาและคัดกรองสถานีชาร์จพลังงาน รวมทั้งบันทึกตำแหน่งที่ตั้งของสถานีลงในจุดหมายของระบบนำทางผ่านดาวเทียม ระบบเครือข่ายการให้บริการ Porsche Charging Service ใหม่ล่าสุด เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่เข้าถึง สถานีบริการชาร์จพลังงาน สาธารณะได้โดยอิสระ ค่าใช้จ่ายในการใช้บริการจะถูกส่งตรงมายังผู้ใช้งานผ่าน Porsche ID account โดยไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนให้ยุ่งยาก

ชุดขับเคลื่อนไฮบริดประกอบด้วยเซลล์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงพร้อมชุดคลัทช์อิสระ electromechanical แตกต่างจากระบบ electro-hydraulic และอุปกรณ์ spindle actuator ในรุ่นก่อนหน้า ให้การตอบสนองที่รวดเร็วและฉับไวกว่าอย่างเห็นได้ชัด ในส่วนของระบบส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 8 จังหวะ Tiptronic S ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่สำหรับปอร์เช่ คาเยนน์โดยเฉพาะ  เกียร์อัตโนมัติชุดนี้ไม่เพียงแต่นุ่มนวลยังสามารถปรับเปลี่ยนอัตราทดได้อย่างรวดเร็ว ลดอาการกระตุกที่เกิดขึ้นขณะเกียร์เปลี่ยน

หนึบแน่นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive พร้อมสมรรถนะในการลากจูงสูงสุดกว่า 3.5 ตันด้วยการทำงานของระบบ Porsche Traction Management (PTM) ส่งผลให้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ของ คาเยนน์ อี-ไฮบริด ได้รับการควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านอุปกรณ์ map-controlled multiplate clutch เพื่อกระจายแรงบิดไปยังล้อขับเคลื่อนอย่างเหมาะสม การทำงานของระบบดังกล่าวช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถบังคับควบคุมรถยนต์ได้ทุกรูปแบบการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่สไตล์สปอร์ตความเร็วสูงที่ต้องการเสถียรภาพ ในการทรงตัว หรือแม้แต่ในยามบุกตะลุยไปบนเส้นทางทุรกันดารสไตล์ offroad  ระบบควบคุมการทรงตัว Porsche Active Suspension Management (PASM) ได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้สามารถเลือกสั่งติดตั้งอุปกรณ์พิเศษอีกหลากหลายรายการ อาทิ ระบบ Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC) ระบบ roll stabilisation และระบบลากจูงรถต่อพ่วงที่สามารถรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 3.5 ตัน

ด้วยตัวถังขนาดใหญ่ทำให้ภายในรถมีความกว้างกว้างขวางตามไปด้วย  อีกทั้งความสูงของตัวรถทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นทำได้ไกลกว่ารถที่มีตัวถังเตี้ยๆ  แผงคอนโซลดูเรียบแต่ทันสมัยปุ่มควบคุมมีขนาดเล็กทำให้ไม่กินพื้นที่มากนัก  มีการแยกกลุ่มของอุปกรณ์ต่างๆอย่างชัดเจน

ตรงแผงคอนโซลจะมีจอกลางที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบภายในรถด้วยการสัมผัส  สามารถลงรายละเอียดไปยังระบบต่างๆได้ ส่วนที่ขาดไม่ได้จะเป็นนาฬิกาอนาล็อกที่ติดตั้งเอาไว้ด้านบนของแผงคอนโซล

นับเป็นครั้งแรกของปอร์เช่สำหรับการติดตั้งหน้าจอแสดงผลแบบใหม่ head-up display ทำงานด้วยการฉายภาพข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับระบบต่างๆ ของตัวรถไปยังระดับสายตาของผู้ขับขี่โดยตรงในลักษณะของหน้าจอสีขณะที่แผงหน้าปัดจะมีการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าด้วยการจัดวางมาตรวัดให้อยู่ทางด้านซ้ายส่วนทางด้านขวาก็จะเหลือพื้นที่เอาไว้สำหรับแผนที่นำทางเพื่อให้คนขับมองเห็นได้ง่ายเพิ่มเติมจากการแสดงเอาไว้ตรงจอกลาง

ปุ่มควบคุมที่ต้องใช้งานบ่อยๆอย่างปุ่มปรับอุณหภูมิจะถูกติดตั้งไว้ตรงคอนโซลเกียร์เป็นตำแหน่งที่คนขับมองเห็นได้ง่ายและอยู่ใกล้มือ  ซึ่งจะรวมไปถึงปุ่มปรับช่วงล่างก็ถูกติดตั้งเอาไว้ในตำแหน่งนี้ด้วย  อีกทั้งไม่เกะกะกับการติดตั้งเบรคมือไฟฟ้าให้ใช้งานง่ายและปลอดภัย

เบาะนั่งคู่หน้ามีขนาดใหญ่นั่งสบายปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบนวดไฟฟ้า  มีระบบไล่ฝ้ากระจกบังลมหน้า heated windscreen ระบบทำความร้อนภายในห้องโดยสารแยกตำแหน่ง อิสระควบคุมด้วยรีโมท

เบาะหลังพร้อมสำหรับรองรับผู้โดยสาร 3 คนที่มาพร้อมเข็มขัดทั้ง 3 จุด มีที่วางแขนขนาดใหญ่พับเก็บไว้ในพนักพิงยามที่ไม่ได้ใช้งาน  ซึ่งสามารถพับพนักพิงลงมาเพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระได้

ในตำแหน่งเบาะหลังจะมีช่องแอร์ที่ติดตั้งอยู่ตรงคอนโซลหลังเบาะสามารถปรับอุณหภูมิและความแรงของลมได้ตามต้องการพร้อมช่องเสียบ USB สำหรับโทรศัพท์มาให้พร้อม

พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายรถมีความจุเพียงพอสำหรับการใช้งานปกติซึ่งสามารถปรับเพิ่มได้ด้วยการพับพนักพิงเบาะหลังราบลงไปทำให้พื้นราบเสมอกัน

ส่วนด้านใต้แผ่นพื้นจะมีอุปกรณ์สำหรับชาร์จแบตเตอรี่เก็บซ่อนเอาไว้ไม่ให้เกะกะสายตา

ในส่วนของอุปกรณ์ พิเศษอื่นๆ ที่ได้รับการเพิ่มเติมลงใน คาเยนน์ (Cayenne) เป็นครั้งแรก ได้แก่ ระบบดิจิทัลช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ Porsche InnoDrive พร้อมระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ adaptive cruise control และล้ออัลลอยน้ำหนักเบา ขนาด 22 นิ้ว

autowoke review ข่าวรถยนต์ ข่าวสารรถยนต์ ทดสอบรถยนต์รุ่นใหม่ ปอร์เช่ คาเยนน์ รถยนต์รุ่นใหม่ รถใหม่ป้ายแดง
Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
Previous Articleตั๋วโมโตจีพี “มา 4 จ่าย 3”
Next Article ฮอนด้าบิ๊กไบค์ประกาศผลคัดเลือก Riding Passion ลุยนิวซีแลนด์ ปี2

Related Posts

มาสด้าเปิดพิพิธภัณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่ให้แฟนเข้าชมในเดือนพฤษภาคม

พฤษภาคม 23, 2022

“LAMBORGHINI CLUB THAILAND TRACK DAY  Drift and Track Basic Course”

พฤษภาคม 23, 2022

“เบนซ์ไพรม์มัส” มอบเงิน 500,000 บ.ให้แก่ รพ.คามิลเลียน

พฤษภาคม 23, 2022
ค้นหาข่าวที่คุณสนใจ..

มาสด้าเปิดพิพิธภัณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่ให้แฟนเข้าชมในเดือนพฤษภาคม

พฤษภาคม 23, 2022

“LAMBORGHINI CLUB THAILAND TRACK DAY  Drift and Track Basic Course”

พฤษภาคม 23, 2022

“เบนซ์ไพรม์มัส” มอบเงิน 500,000 บ.ให้แก่ รพ.คามิลเลียน

พฤษภาคม 23, 2022

CARS24 เปิดเคล็ดลับวิธีดูรถมือสองแบบมืออาชีพด้วยตัวเอง

พฤษภาคม 23, 2022

Mercedes-AMG Team Craft-Bamboo Racing จบ P2 ที่บาเทิร์สต์ 12 ชั่วโมง

พฤษภาคม 23, 2022

“เลกัวน่า” ซิวที่ 6 เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ สนาม 3 เก็บแต้มสำคัญให้ ฮอนด้า

พฤษภาคม 23, 2022

สแกนเนียปรับกลยุทธ์รุกธุรกิจสินเชื่อ

พฤษภาคม 22, 2022

“วิเออเฮร์” คว้าท็อปไฟว์เรซแรก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ สนาม 3

พฤษภาคม 22, 2022

“ก๊องส์-ธัชกร” สตาร์ตแถว 3 จูเนียร์จีพี สนาม 2

พฤษภาคม 22, 2022

“ยามาฮ่า” คว้ารางวัลระดับโลก การออกแบบเว็บไซต์ผ่านแพลตฟอร์มบนสมาร์ทโฟน

พฤษภาคม 22, 2022

“วิเออเฮร์” ซ้อมวันแรก รั้งท็อป 7 เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ สนาม 3

พฤษภาคม 22, 2022

“ก๊องส์-ธัชกร” ซ้อมวันแรก รั้งท็อปเท็น จูเนียร์ จีพี สนาม 2

พฤษภาคม 22, 2022

Audi Q3 Sportback 40 TFSI quattro S line Black Edition เอสยูวีลูกผสม

พฤษภาคม 22, 2022

ตลาดรถยนต์เมษายนเติบโตรับมอเตอร์โชว์

พฤษภาคม 20, 2022

คาร์ซัม อะคาเดมี่ เปิดสอนหลักสูตรการตรวจเพื่อประเมินสภาพรถยนต์ใช้แล้ว

พฤษภาคม 20, 2022
ติดต่อเรา
คุณอภิชัย ไกรนุกูล (APHICHAI KRAINUKOOL)
Email : aphichaik@hotmail.com
เบอร์โทร : 0819134292
ฝ่ายขายและโฆษณา
คุณจินตนา ภู่แย้ม
เบอร์โทร : 0819201264
Email : maew_jintana@hotmail.com
Photographer
คุณมนัส แช่มประสิทธิ์
เบอร์โทร : 0945455391

 129 total views,  1 views today

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.