• News
  • Newcar
  • Review
  • Worldcar
  • Usedcar
  • Motorcycle
  • History
  • Knowledge
Trending
  • “เป๊ปซี่โค” ประกาศความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่กับ “ฟอร์มูล่า วัน”
  • Gebrüder Weiss ขยายเครือข่ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง
  • คอนติเนนทอล สานต่อกิจกรรม Continental CSR Skill Driving 2025
  • เบนท์ลีย์ แบงค็อกเชิญเหล่าซิตี้ไลฟ์สไตล์สัมผัสเสน่ห์แห่งอัครยนตรกรรม ณ ห้างเอ็มโพเรียม
  • ค็อกพิทจัดโปรโมชันครั้งใหญ่ “COCKPIT MID YEAR GRAND SALE”
  • ฮุนไดฉลองเดือนแห่ง Pride ชวน Riety
  • “แบมบู เรซซิ่ง” ทีมแข่งฮ่องกงรั้งจ่าฝูงวันแรกจีที เวิลด์
  • ตลาดเครื่องยนต์เรือสะเทือน สแกนเนียจับมือ ฟิวเจอร์ พาวเวอร์ โซลูชั่นส์
วันอาทิตย์, 1 มิถุนายน
  • ติดต่อเรา : 0819134292
  • อีเมล์ : aphichaik@hotmail.com
ข่าวรถยนต์ ข่าวยานยนต์
  • News
  • Newcar
  • Review
  • Worldcar
  • Usedcar
  • Motorcycle
  • History
  • Knowledge
ข่าวรถยนต์ ข่าวยานยนต์
Worldcar

ปอร์เช่ใช้มอเตอร์สปอร์ตเป็นพื้นที่ทดลองเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต

By adminกรกฎาคม 11, 20243 Mins Read
Porsche 963 & 917

สำหรับปอร์เช่ (Porsche) นวัตกรรมและการแข่งขันรถยนต์เป็นของคู่กัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การพัฒนาเทคโนโลยีเทอร์โบ ในปี 1974 หรือเมื่อ 50 ปีที่แล้ว 911 เทอร์โบ (911 Turbo) รถยนต์เทอร์โบชาร์จรุ่นแรกของปอร์เช่ ได้เปิดตัวต่อชาวโลกเป็นครั้งแรก ด้วยพละกำลัง 260 แรงม้า ซึ่งถือว่าเป็นพละกำลังที่มหาศาลสำหรับยุคนั้น หัวใจสำคัญของเครื่องยนต์อันล้ำสมัยนี้มาจากสนามแข่ง เทคโนโลยีซูเปอร์ชาร์จเจอร์ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในปอร์เช่ 917/10 ปัจจุบัน พละกำลังระบบของปอร์เช่ 911 รุ่นล่าสุด มีพละกำลังสูงถึง 398 กิโลวัตต์ (541 แรงม้า) 911 คาร์เรร่า จีทีเอส (911 Carrera GTS) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ แต่เป็นการผสมผสานเข้ากับระบบ T-hybrid เป็นครั้งแรก การพัฒนานี้ได้ประโยชน์จากความรู้ที่ปอร์เช่สั่งสมมาในวงการมอเตอร์สปอร์ต ตั้งแต่ปี 2015 ถึง 2017 ที่รถยนต์ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) สุดล้ำสมัย ได้รับรางวัลชนะเลิศจากรายการแข่งขันเลอมังส์ 24 ชั่วโมง (24 Hours of Le Mans) ถึง 3 ครั้งและกวาดตำแหน่งแชมป์ในรายการ FIA World Endurance Championship (WEC) ปัจจุบัน ปอร์เช่ตั้งเป้าคว้าชัยชนะครั้งที่ 20 ในการแข่งขันรถยนต์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยรถต้นแบบไฮบริด 963 ซึ่งสะท้อนแนวคิดที่ปอร์เช่ได้นำเอาความรู้จากสนามแข่งมาพัฒนารถยนต์บนท้องถนน

ในฤดูร้อนปี 1970 ปอร์เช่ (Porsche) คว้าแชมป์รายการ เลอมังส์ 24 ชั่วโมง (24 Hours of Le Mans) เป็นครั้งแรกด้วยรถ 917 KH ตามมาด้วยชัยชนะในซีรีส์ แคนแอม (CanAm) อเมริกาเหนือ แต่ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 12 สูบ 4.5 ลิตร พละกำลัง 580 แรงม้า มีขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับคู่แข่งซึ่งเป็นรถยนต์สัญชาติอเมริกันที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่ามาก เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ต้องการ ปอร์เช่จึงวางแผนที่จะพัฒนาเครื่องยนต์ 16 สูบ พร้อมกับการใช้เทอร์โบชาร์จเจอร์ (turbocharger) จากท่อไอเสีย ในการแข่งขัน CanAm ด้วยเส้นทางที่มีลักษณะคดเคี้ยว จำเป็นต้องการเทอร์โบชาร์จเจอร์รอบสูงเพื่อลดอาการของ Turbo Lag ให้เหลือน้อยที่สุด วิธีแก้ปัญหานี้คือ ระบบควบคุมแรงดันบูสต์ฝั่งไอเสีย ที่ช่วยป้องกันแรงดันส่วนเกินที่ไม่ต้องการในช่วงกำลังต่ำหรือการทำงานแบบ overrun โดยการปล่อยไอเสียส่วนเกินออกผ่านวาล์วบายพาส (bypass relief valve) และเวสต์เกต (wastegate) สิ่งนี้ช่วยจำกัดแรงดันบูสต์ให้อยู่ในระดับคงที่ นอกจากนี้ยังช่วยให้ใช้เทอร์โบชาร์จเจอร์ (turbocharger) มีขนาดเล็กลง ลดมวลหมุน และตอบสนองดีขึ้น

ปลายเดือนกรกฎาคม ปี 1971 รถเปิดประทุน 917/10 Spyder พร้อมเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จสามารถเข้าเส้นชัยในสนาม Weissach เป็นครั้งแรก ซึ่งปอร์เช่เลือกใช้เทอร์โบที่มีขนาดเล็ก 2 กระบอก แทนที่จะใช้เทอร์โบชาร์จเจอร์ขนาดใหญ่ สิ่งนี้ทำให้เครื่องยนต์ตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยมและสร้างพละกำลังมากถึง 850 แรงม้า ความสำเร็จในรายการแข่งขัน CanAm ถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ ในปี 1972 ทีมพันธมิตรของ Porsche อย่าง Penske Enterprises ชนะการแข่งขัน 6 รายการจากทั้งหมด 9 รายการ รวมถึงการคว้าแชมป์ CanAm Cup และต้องขอบคุณ จอร์จ ฟอลเมอร์ (George Follmer) สำหรับการคว้าแชมป์นักขับด้วย อีกทั้งในปี 1973 ปอร์เช่ได้พัฒนารถแข่ง 917/30 Spyder ขนาด 5.4 ลิตร ที่มีพละกำลังสูงถึง 1,100 แรงม้า สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า มีเพียงกฎกติกาการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงเท่านั้นที่จะสามารถหยุดยั้งชัยชนะของปอร์เชได้ แต่ไม่สามารถหยุดยั้งการพัฒนาเทคโนโลยีเทอร์โบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกีฬามอเตอร์สปอร์ต

หลังจากการแข่งขัน CanAm ปอร์เช่ยังคงใช้เทอร์โบในรถแข่งรุ่น 911 และรถต้นแบบ รถแข่งคันแรกที่ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบในการแข่งขันเลอมังส์ เมื่อปี 1974 ณ คือ 911 คาร์เรรา อาร์เอสอาร์ เทอร์โบ 2.1 (911 Carrera RSR Turbo 2.1) ได้ส่งเสียงกระหึ่มในรอบฝึกซ้อม ด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบแบน ขนาด 2.1 ลิตร พละกำลัง 368 กิโลวัตต์ (500 แรงม้า) มีระบบอินเตอร์คูลลิ่ง หรือการระบายความร้อนระหว่างเทอร์โบไปยังห้องเผาไหม้จึงทำให้มีออกซิเจนมาก ทำให้สามารถคว้าอันดับที่ 2 ในการแข่งขัน เลอมังส์ 24 ชั่วโมง และเราได้นำเทคโนโลยีนี้ ไปสู่รถสายการผลิต โดยระบบอินเตอร์คูลเลอร์ถูกนำไปใช้ใน 911 Turbo ตั้งแต่ปี 1977 สิ่งนี้ช่วยเพิ่มกำลังของรถซีรีส์นี้เป็น 300 แรงม้า

เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 2.1 ลิตร ช่วยให้คว้าชัยใน 2 นัดแรกที่เลอมังส์ ได้แก่ปี 1976 รถเปิดประทุน 936/76 สไปเดอร์ (Spyder) ผลิตพละกำลังได้ 382 กิโลวัตต์ (520 แรงม้า) และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 360 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในอีก 1 ปีต่อมา รถยนต์น้ำหนักเบา 700 กิโลกรัม ที่ใช้ระบบชาร์จ 2 ตัว และมีพละกำลัง 397 กิโลวัตต์ (540 แรงม้า) คว้าชัยชนะอีกครั้ง แต่ในปี 1978 และ 1979 ปอร์เช่ประสบปัญหาทางเทคนิค ทำให้พลาดชัยชนะติดต่อกัน อย่างไรก็ตามปอร์เช่ไม่ย่อท้อและทะเยอทะยานพัฒนาเครื่องยนต์ต่อไป โดยในปี 1981 รถ 936 สไปเดอร์ (Spyder) ที่มีพละกำลังถึง 456 กิโลวัตต์ (620 แรงม้า) ได้เข้าแข่งขันที่เลอมังส์ (Le Mans) อีกครั้ง และคว้าชัยชนะครั้งที่ 3 ในระหว่างนั้น เมื่อปี 1979 Kremer Racing ก็สามารถคว้าชัยชนะครั้งแรกที่เลอมังส์ (Le Mans) ด้วยรถแข่ง 911 เทอร์โบ (911 Turbo) รุ่น 935 ชัยชนะครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการแข่งขันของทีมลูกค้า ที่อยู่บนรากฐานของความมุ่งมั่นในการแข่งรถของปอร์เช่ รุ่น 935/78 ได้รับพัฒนาจนเสร็จสิ้นในปี 1978 “Moby Dick” และถูกนำมาใช้โดยทีมงานภายในเท่านั้น เครื่องยนต์เทอร์โบคู่ขนาด 3.2 ลิตรเป็นเครื่องยนต์แรกที่มีฝาสูบหลายวาล์วระบายความร้อนด้วยน้ำและให้กำลังสูงสุด 621 กิโลวัตต์ (845 แรงม้า)

รถต้นแบบของรถแข่ง ปอร์เช่ (Porsche) 956 และ 962 C คว้าแชมป์รายการเลอมังส์ 24 ชั่วโมง (24 Hours of Le Mans) ได้ถึง 7 ครั้งระหว่างปี 1982 ถึง 1994 ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงสร้างตำนาน แต่ยังบุกเบิกการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์และนวัตกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ที่สืบทอดมายังรถปอร์เช่ในปัจจุบัน พื้นที่ใต้ท้องรถมีรูปทรงพิเศษช่วยให้เข้าโค้งได้ด้วยความเร็ว ให้ความมั่นคงบนทางตรงและเบรกได้อย่างเฉียบคมในระยะที่สั้นลง เทคโนโลยีล้ำสมัยเหล่านี้ ล้วนเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของปอร์เช่ในการพัฒนารถยนต์ที่เหนือชั้น การพัฒนาระบบควบคุมเครื่องยนต์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง Motronic จาก Bosch ยังช่วยให้มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้น ภายใต้ข้อกำหนดการใช้พลังงานที่ถูกกำหนดไว้ในกฎระเบียบกลุ่ม C ในสมัยนั้น อีกหนึ่งนวัตกรรมล้ำหน้าคือ ระบบเกียร์คลัตช์คู่ PDK ของปอร์เช่ แผนกแข่งรถได้ทดลองใช้ระบบนี้ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปี 1984 ซึ่งช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ไร้รอยต่อ ซึ่งมีประสิทธิภาพดีเยี่ยมตั้งแต่ปี 1987 ปัจจุบัน ผู้ผลิตรถสปอร์ตรายนี้ส่งมอบรถยนต์ที่ใช้ระบบเกียร์ PDK เป็นส่วนใหญ่ แทนการใช้เกียร์ธรรมดา เทคโนโลยี PDK ยังถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในรถยนต์กลุ่มโฟล์คสวาเกนและผู้ผลิตรถยนต์อื่นๆ ภายใต้ชื่อ DSG

เครื่องยนต์ 6 สูบ เทอร์โบคู่ (biturbo) ขนาด 3.0 ลิตรของ 962 C ยังถูกนำไปใช้ใน TWR Porsche WSC Spyder แบบเปิดประทุน ซึ่งทีม Joest Racing ได้คว้าชัยชนะที่เลอมังส์ (Le Mans) ในปี 1996 และ 1997 ขณะเดียวกันทีมงานก็ให้ความเชื่อมั่นในปอร์เช่ 911 จีที1 (Porsche 911 GT1) ซึ่งเป็นเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 6 สูบ เทอร์โบคู่ขนาด 3.2 ลิตรให้กำลัง 441 กิโลวัตต์ (600 แรงม้า) แสดงถึงพัฒนาการทางเทคนิคที่ถูกนำไปใช้ในการผลิตจริง ในปี 1997 รุ่น 996 เจนเนอเรชั่น 911 ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำทั้งหมด และในปี 1998 รถปอร์เช่ 911 จีที 1 (911 GT1-98) คว้าชัยชนะตำแหน่งที่ 1 และ 2 ในเลอมังส์

ปอร์เช่ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) คือสิ่งเน้นย้ำถึงการที่ปอร์เช่ใช้มอเตอร์สปอร์ตเป็นแพลตฟอร์มพัฒนาเทคโนโลยีอันล้ำสมัยอย่างต่อเนื่อง รถที่ชนะการแข่งขันเลอมังส์ (Le Mans) ในปี 2015, 2016 และ 2017 ยังคงเป็นรถแข่งที่ซับซ้อนที่สุดเท่าที่ผู้ผลิตรถสปอร์ตเคยสร้างมา เครื่องยนต์ V4 ขนาดกะทัดรัด ประสิทธิภาพสูงพร้อมระบบฉีดเชื้อเพลิงที่ปอร์เช่พัฒนาขึ้น ถือเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ผลิตพละกำลังประมาณ 368 กิโลวัตต์ (500 แรงม้า) โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนเพลาหน้าด้วยกำลังประมาณ 294 กิโลวัตต์ (400 แรงม้า)

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสามารถชาร์จพลังงานได้บางส่วนผ่านการเบรก และอีกส่วนหนึ่งผ่านเทคโนโลยีที่ปอร์เช่ใช้เป็นเจ้าเดียวในรายการแข่งขัน World Endurance Championship นั่นคือ เทอร์โบชาร์จเจอร์ตัวที่สองที่มีรูปทรงกังหัน ท่อไอเสียทำหน้าที่ปั่นไฟฟ้า นวัตกรรมใหม่อีกอย่างหนึ่งคือระบบไฟฟ้า 800 โวลต์ที่ปอร์เช่ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่สำหรับรุ่น 919 ไฮบริด (919 Hybrid) สิ่งนี้ถูกใช้เป็นครั้งแรกในปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) ที่เปิดตัวเมื่อปี 2019 และเป็นหนึ่งในคุณสมบัติทางเทคนิคที่สำคัญของรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าล้วนคันแรกของปอร์เช่ ติโม เบิร์นฮาร์ด (Timo Bernhard) นักขับมากฝีมือ ผู้ชนะเลอมังส์ 2 สมัย และแบรนด์แอมบาสเดอร์ของปอร์เช่ สร้างตำนานบทใหม่ด้วยการขับ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) เวอร์ชั่น Evo พิชิตสนาม Nürburgring Nordschleife ด้วยเวลาอันน่าทึ่งเพียง 5:19.55 นาที วิดีโอการขับขี่สุดเร้าใจนี้กลายเป็นไวรัล มีผู้ชมมากกว่า 9 ล้านครั้ง บน YouTube

ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา ปอร์เช่ได้นำเสนอรถยนต์ไฮบริดอีกครั้งในการแข่งขันระดับสูงสุดของ FIA World Endurance Championship WEC และซีรีส์รถสปอร์ต American IMSA การพัฒนา 963 เริ่มขึ้นในปี 2020 โดยผสมผสานเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.6 ลิตรที่มีต้นกำเนิดมาจากปอร์เช่ อาร์เอส สไปเดอร์ (Porsche RS Spyder) และซูเปอร์สปอร์ตคาร์ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) เข้ากับเทอร์โบชาร์จเจอร์ขนาดเล็ก 2 ตัวและระบบไฮบริด ภายใต้กฎระเบียบของ LMDh รถคันนี้มีพละกำลังรวมประมาณ 515 กิโลวัตต์ (700 แรงม้า)เป้าหมายของ 963 คือการคว้าชัยในการแข่งขัน Le Mans ครั้งที่ 20 ให้กับปอร์เช่ และแสดงศักยภาพของรถสปอร์ต 50 ปีหลังจากการเปิดตัว 911 เทอร์โบ (911 Turbo) ครั้งแรกในโลก ณ กรุงปารีส นี่ถือเป็นชัยชนะครั้งที่ 18 สำหรับรถแข่งปอร์เช่ที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ

Loading

Loading

Auto Automobile autowoke Car Car news knowledge Motor Sport news worldcar ข่าว ข่าวรถยนต์ ข่าวออนไลน์ ข่าวอัพเดท จักรยานยนต์ ทดลองขับ ทดสอบรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ยานยนต์ รถมือสอง รถยนต์ รถเก่า รถใหม่
Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
Previous Articleเอ็นเอ็กซ์ เวียดนาม เปิดตัวบริการขนส่งทางรางเส้นทางเหนือ-ใต้ในเวียดนาม
Next Article นิปปอนเพนต์ชู GREEN PLAN มุ่งเป้าพันธกิจ Net Zero ปี 2050

Related Posts

“เป๊ปซี่โค” ประกาศความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่กับ “ฟอร์มูล่า วัน”

พฤษภาคม 30, 2025

Gebrüder Weiss ขยายเครือข่ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง

พฤษภาคม 30, 2025

คอนติเนนทอล สานต่อกิจกรรม Continental CSR Skill Driving 2025

พฤษภาคม 30, 2025

Comments are closed.

ค้นหาข่าวที่คุณสนใจ..

“เป๊ปซี่โค” ประกาศความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่กับ “ฟอร์มูล่า วัน”

พฤษภาคม 30, 2025

Gebrüder Weiss ขยายเครือข่ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง

พฤษภาคม 30, 2025

คอนติเนนทอล สานต่อกิจกรรม Continental CSR Skill Driving 2025

พฤษภาคม 30, 2025

เบนท์ลีย์ แบงค็อกเชิญเหล่าซิตี้ไลฟ์สไตล์สัมผัสเสน่ห์แห่งอัครยนตรกรรม ณ ห้างเอ็มโพเรียม

พฤษภาคม 30, 2025

ค็อกพิทจัดโปรโมชันครั้งใหญ่ “COCKPIT MID YEAR GRAND SALE”

พฤษภาคม 30, 2025

ฮุนไดฉลองเดือนแห่ง Pride ชวน Riety

พฤษภาคม 30, 2025

“แบมบู เรซซิ่ง” ทีมแข่งฮ่องกงรั้งจ่าฝูงวันแรกจีที เวิลด์

พฤษภาคม 30, 2025

ตลาดเครื่องยนต์เรือสะเทือน สแกนเนียจับมือ ฟิวเจอร์ พาวเวอร์ โซลูชั่นส์

พฤษภาคม 30, 2025

รถจักรยานยนต์ฮอนด้า จัดเต็มยางล้อคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำ ในราคาสุดคุ้ม!

พฤษภาคม 30, 2025

“ชิพ-นครินทร์” บิด Honda CBR1000RR-R 2025 ครองท็อป 3 ซ้อมแรก ARRC 2025 สนาม 2 ที่ มาเลเซีย

พฤษภาคม 30, 2025

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ปล่อยทีเซอร์ Bentayga ใหม่ พร้อมเผยโฉม 2 มิถุนายนนี้

พฤษภาคม 29, 2025

ไซลุน ไทร์ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เดินหน้ารุกตลาดยางรถยนต์ไทยเต็มพิกัด

พฤษภาคม 29, 2025

คาราสติ พลิกโฉมวงการยานยนต์ในไทยด้วยโมเดล Car Subscription แบบครบวงจร

พฤษภาคม 29, 2025

โตโยต้าเปิดศูนย์การเรียนรู้ โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ แห่งที่ 7

พฤษภาคม 29, 2025

AAS Motorsport คว้า “Double Winner” ในศึก TSS The Super Series by B-Quik 2025

พฤษภาคม 29, 2025
ติดต่อเรา
คุณอภิชัย ไกรนุกูล (APHICHAI KRAINUKOOL)
Email : aphichaik@hotmail.com
เบอร์โทร : 0819134292
ฝ่ายขายและโฆษณา
คุณจินตนา ภู่แย้ม
เบอร์โทร : 0819201264
Email : maew_jintana@hotmail.com
Photographer
คุณมนัส แช่มประสิทธิ์
เบอร์โทร : 0945455391

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.