
เปิดตัวในเมืองไทยไปเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาสำหรับ Volvo S60สปอร์ตซีดานระดับพรีเมียม ใหม่ในราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาทสำหรับรุ่น Momentum และ2.59 ล้านบาทสำหรับรุ่น R-DESIGN
หากมองย้อนไปในอดีตกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ก็กินเวลานานพอสมควรถ้าราคาน้ำมันยังต่ำอยู่ก็คงต้องใช้เวลาอีกนาน การนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในรถยนต์นั้นมีมานานแล้วอย่างค่าย Volvo ก็มีรถยนต์ไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 1976 เพียงแต่ยังไม่สามารถใช้เดินทางไปได้ไกลๆด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน
พอรถไฟฟ้าเริ่มดัง Volvo ก็มีรถยนต์ไฮบริดออกมาในปี 1992 ด้วยการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเอาไว้ระหว่างเครื่องยนต์กับเกียร์โดยมอเตอร์ที่ใช้จะเป็นขนาด 42 โวลท์ ซึ่งจะมีรุ่น ECC 1992 รถไฮบริดต้นแบบที่ออกมาในช่วงนี้
ในช่วงปี 1998 ถึง 2001 จะมีSevillaออกมาโดยใช้มอเตอร์ขนาด 42 โวลท์ที่จะช่วยให้รถมีกำลังเพิ่มขึ้นในช่วงออกตัว
สำหรับรถไฟฟ้าจริงๆของ Volvo จะเป็นรุ่น c30 ในปี 2011 แต่ในยุคนั้นผู้คนยังสนใจรถไฟฟ้าล้วนๆมีน้อยจึงทำให้ 430 ทั้งหมดกลายเป็นรถเช่าไปโดยปริยาย
Volvo เริ่มรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในรุ่น V 60 ปี 2012 ซึ่งจะทำงานควบคู่กับเครื่องยนต์ดีเซล
ปี 2015 ก็มีรุ่น s60 ปลั๊กอินไฮบริดเครื่องยนต์เบนซินออกมาใช้
และในปีเดียวกันนั้นยังมี xc90 เครื่องยนต์เบนซินออกมาด้วยเช่นกัน
ปี 2016 มี S90 v90 Plug in Hybrid เครื่องยนต์เบนซินตามมา
สำหรับ s60 ที่เพิ่งเปิดตัวไปก็จะเป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่มีการจัดวางแบตเตอรี่เอาไว้ตรงกลางรถ โดยวางตามยาวของตัวรถจึงช่วยถ่วงน้ำหนักได้ดี ลดอาการโอเวอร์สเตียร์/อันเดอร์สเตียร์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะต่างจากการวางแบตเตอรี่เอาไว้ตรงท้ายรถที่จะเกิดอาการท้ายเหวี่ยงเมื่อมีการเข้าโค้งแรงๆ สำหรับการวางแบตเตอรี่เอาไว้ตรงกลางรถก็จะช่วยในเรื่องของการเกาะถนนทำได้ดีขึ้นด้วย
สำหรับขุมพลังใน s60 นั้นทาง Volvo เรียกว่า Twin Power เกิดจากการใช้เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนโดยการจัดวางมอเตอร์เอาไว้ตรงเพลาหลังและระหว่างเครื่องยนต์กับเกียร์ การจัดวางแบบนี้จะช่วยลดการสูญเสียพลังงานผ่านเพลากลางได้เป็นอย่างดี ซึ่งการวางมอเตอร์ 2 ตัวก็จะสามารถดึงพลังงานกลับมาใช้ได้อย่างเต็มที่กว่าจากระบบเบรคด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
เครื่องยนต์ที่ใช้จะมีสมรรถนะสูงแต่มีมลภาวะต่ำจากการใส่ซุปเปอร์ชาร์จกับเทอร์โบเข้าไป เพื่อให้ได้เครื่องยนต์กำลังสูงๆจึงต้องใช้เทอร์โบลูกใหญ่แต่จะมีปัญหาเทอร์โบแล็คตามมา
ในช่วงรอบต่ำจึงต้องติดตั้งซุปเปอร์ชาร์จเอาไว้สำหรับช่วยในช่วงของการออกตัวหรือว่าในรอบต่ำๆ จึงทำให้ได้เครื่องยนต์ที่มีอัตราเร่งดีต่อเนื่องตั้งแต่รอบต่ำประหยัดเชื้อเพลิงสามารถใช้เทอร์โบลูกใหญ่ได้
กำลังที่ได้จากเครื่องยนต์ 320 แรงม้าที่ 5 700 รอบต่อนาทีส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้กำลังสูงสุด 87 แรงม้าเมื่อรวมกำลังสูงสุดก็จะได้ 47 แรงม้าขณะที่แรงบิดอยู่ที่ 40 นิวตันเมตรอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 4.4 วินาทีทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระบบขับเคลื่อนใน Volvo s60 จะใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าและใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหลั งระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อมเกียร์ทรอนิค สำหรับรุ่น R Design ก็จะได้ก้านเปลี่ยนเกียร์ตรงพวงมาลัยเพิ่มเข้ามา
หน้าตาของรถรุ่นนี้จะมีความสวยงามด้วยรายละเอียดเฉพาะตัวในส่วนกระจังหน้าจะออกแบบอย่างสะดุดตาด้วยการติดตั้งตราวอลโว่เอาไว้ ส่วนฮู้ดหลังยาวและฝากระโปรงห้องเครื่องสื่อถึงพลังในการขับเคลื่อนอย่างชัดเจน เสริมด้วยไฟหน้าแอลอีดี ดีไซน์รูปลักษณ์ฆ้อนธอร์อันเป็นซิกเน-เจอร์ของวอลโว่ได้อย่างชัดเจน
ออกแบบห้องโดยสารตามแบบฉบับสแกนดิเนเวียนให้ความสำคัญกับความสะอาดหมดจด คุณภาพ และตอบรับกับการใช้งาน ซึ่งการออกแบบห้องโดยสารของ The All-New Volvo S60 สะท้อนถึงหลักการดังกล่าวอย่างชัดเจนในรุ่น R-Design จะนำเสนองานฝีมือแบบสแกนดิเนเวียน มือจับประตูรถตกแต่งด้วยอลูมิเนียมและแผงไฟในโทนสีที่สอดประสานกลมกลืน เสริมความสวยงามด้วยการฝังลายแบบ Metal Décor Inlays ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดการตกแต่ง แป้นเกียร์ และพวงมาลัยแบบ R-design
พื้นที่ภายในอเรียบง่าย โปร่งสบายตา ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย รุ่น R-Design จะตกแต่งเบาะด้วยหนัง R-Design Fine Nappa Perforated Leather Upholstery ในเฉดสี Charcoal และรุ่น Momentum ตกแต่งหนังแท้ในเฉดสี Charcoal และ Maroon Brown
เบาะนั่งถูกออกแบบมาให้รองรับส่วนโค้งของสรีระได้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงรู้สึกสบายแม้การเดินทางจะยาวนาน รวมถึงการกำหนดความสูงของเบาะนั่งระดับต่ำยังทำให้คุณสัมผัสถึงการเคลื่อนไหวบนพื้นถนนอย่างชัดเจน
สำหรับเบาะด้านหลังของผู้โดยสารมาพร้อมระบบ 4-Way Power Lumbar Support เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าบริเวณหลัง ผสานกับ Power Fold Rear Headrest และการปรับระยะหมอนรองได้ตามต้องการ