ชื่อโฟล์กสวาเกน แรบบิทอยู่ในอเมริกาและแคนาดาเป็นกอล์ฟ รุ่นแรกที่ใช้รหัสตัวถังว่า Mk1 รหัสรถ 17 มาแทน โฟล์กสวาเกน บีเทิล หรือรถเต่าทองที่วางเครื่องยนต์เอาไว้ด้านหลังระบายความร้อนด้วยอากาศ ขับเคลื่อนล้อหลัง มีเกียร์ให้เลือก 3 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 4 สปีด, 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด ซึ่งยุคนั้นระบบเกียร์อัตโนมัติยังไม่ก้าวหน้า ทำให้มีราคาแพงและสิ้นเปลืองน้ำมัน
เนื่องจากไม่คุ้นชินกับรถที่มีลักษณะท้ายตัดเกรงว่าผู้โดยสารแถวหลังจะได้รับอันตรายได้ง่ายหากถูกชนท้าย รถเกือบทุกรุ่นที่มีลักษณะท้ายตัดจึงมักไม่ประสบความสำเร็จ แต่ โฟล์กสวาเกน กอล์ฟกลับประสบความสำเร็จ จนมีการเพิ่มกระบะบรรทุกของลงไปที่ด้านหลัง กลายเป็นรถโฟล์กกอล์ฟแบบรถกระบะ ผลิตอยู่ระยะหนึ่งก็ได้แยกตัวไปเป็นรถรุ่น เจ็ตตาหรือ เวนโต
กอล์ฟได้มีการออกรุ่นพิเศษออกมา คือ โฟล์กสวาเกน กอล์ฟ จีทีไอ ในปี 2519 ซึ่งเป็นรถสปอร์ตขนาดเล็ก ไม่เกิน 1800 ซีซี แต่แรงจัด ให้กำลังสูงสุดถึง 110 แรงม้า ก่อนเลิกผลิตMk1 ได้มีการนำระบบหัวฉีดเข้ามาใช้แทนระบบคาร์บูเรเตอร์ ทำให้เครื่องยนต์ให้แรงขึ้นไปอีกและประหยัดน้ำมันมากขึ้น
ในปี 2527 กอล์ฟ Mk1 เกือบทุกตลาดได้เลิกผลิตลง ยกเว้นกอล์ฟ คาบริโอเล็ตรุ่นเปิดประทุนได้ผลิตขายอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2536 จึงเปลี่ยนไปใช้แบบของ Mk3 ส่วนในแอฟริกาใต้กอล์ฟ Mk1 ขายได้ต่อเนื่องไปจนถึงกลางปี 2552 จึงได้เลิกผลิต รวมยอดขายรถ โฟล์กสวาเกน กอล์ฟ Mk1 ทั้งสิ้น 6.8 ล้านคัน