ถึงจะมีการแตกไลน์ออกไปหลากหลายรุ่นแต่สำหรับ C 300 e AMG Dynamic ราคา 3,215,000 บาท รถยนต์ซีดานหรูของค่าย Mercedes-Benz ก็ยังเป็นที่ต้องการของคนใช้รถอยู่เสมอ ด้วยความพร้อมทั้งในเรื่องของสมรรถนะและความประหยัด สำหรับการเป็นรถยนต์ไฮบริดที่ขับได้ไกลพอในการเดินทางไปกลับที่ทำงานถ้ามีการวางแผนอย่างดี
กับตัวถังที่ดูปราดเปรียว เร้าใจ ติดตั้งกระจังหน้าแบบ diamond grille สีเงินพร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว โดยมีกันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้างเป็นดีไซน์สปอร์ตแบบ AMG Bodystyling
โคมไฟหน้าและหลังได้รับการออกแบบโดยใช้เส้นโค้งเป็นองค์ประกอบหลัก พร้อมใช้วัสดุคุณภาพสูงเพื่อสร้างความประทับใจสูงสุด ในแง่รูปลักษณ์ และความรู้สึก รวมถึงการใช้เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam ซึ่งประกอบด้วยหลอดไฟ LED ที่ทำงานโดยอิสระจำนวน 84 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถปรับความเข้มแสง โดยใช้ระบบไฟหน้าให้เข้ากับสภาพการจราจรโดยรอบได้
ระบบไฟหน้า MULTIBEAM LED มีคุณสมบัติพิเศษมากมายที่เหนือกว่าระบบไฟหน้า LED มาตรฐาน (ที่มีหลอดไฟ LED 19 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม) เช่น ระบบไฟส่องสว่างขณะขับผ่านสี่แยกหรือวงเวียน ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเมือง และระบบไฟส่องสว่างสำหรับสภาวะอากาศเลวร้าย
ระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam จะทำงานอัตโนมัติหากระบบตรวจจับได้ว่า ไม่มีผู้สัญจรในทางรถสวน ถนนข้างหน้าเป็นทางตรง และผู้ขับขี่กำลังใช้ความเร็วตั้งแต่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam จะช่วยให้ไฟหน้าของรถมีความสว่างในระดับที่สูงขึ้นตามความเร็วของรถโดยสามารถส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร นอกจากนี้ในรุ่น C 300 e AMG Dynamic ยังมีหลังคาพาโนรามิคซันรูฟที่เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าอีกด้วย
ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้มีความหรูหราสไตล์สปอร์ต และมีโครงสร้างที่ดูต่อเนื่องเป็นชิ้นเดียว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน แบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control มาพร้อมกับระบบกุญแจแบบ KEYLESS-START และมีระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO เสริมเข้ามาด้วย
หน้าจอมัลติมีเดียบริเวณกลางคอนโซลแบบ MB Audio 20 ขนาด 10.25 นิ้ว เพื่อใช้ในการควบคุมระบบต่างๆ ของรถได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสด้วยระบบ Touch pad ไม่ว่าจะเป็นระบบ Apple CarPlay™ ระบบถอยจอดแบบอัตโนมัติ หรือระบบแผนที่นำทาง 3 มิติรูปแบบใหม่ในรุ่น C 300 e AMG Dynamic เป็นต้น
อีกทั้งยังได้เพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทางด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า นอกจากนี้ยังได้นำเทคโนโลยี และรูปแบบการใช้งานมาจากรถยนต์ The S-Class โดยมีระบบ All-Digital instrument display หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ คือ Classic Sporty และ Progressive
เบาะหุ้มหนังแบบสปอร์ตพร้อม Memory Seat Package เป็นเบาะนั่งที่ออกแบบได้กระชับพอดีกับลำตัวด้วยปีกข้างๆที่มีขนาดใหญ่ทำให้รัดลำตัวไม่ให้หลุดออกจากเบาะเมื่อเจอกับการเข้าโค้งแบบแรงๆ
ขับสนุกจากสมรรถนะของเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ ความจุ 1,991 ซีซี ที่ให้ กำลังสูง 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตันเมตรที่ 1,200 – 1,400 รอบต่อนาที ซึ่งเมื่อผสานพลังกับมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง 122 แรงม้า จะทำให้ได้ System Output สูงสุดถึง 320 แรงม้าที่ 4,500 – 5,500 รอบ/นาที และมีแรงบิดถึง 700นิวตันเมตร ความเร็ว100กม./ชม.อยู่ที่1,600รอบ/นาที นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แบบผสมที่ ต่ำกว่า 45 กรัม ต่อกิโลเมตรเท่านั้น
ความต่อเนื่องของอัตราเร่งมาจากการเลือกใช้เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะแบบ (9G-TRONIC) ที่ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากยิ่งขึ้น ทำให้การขับเคลื่อนมีความนุ่มนวลและลดเสียงรบกวนได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้สามารถลดระดับเกียร์ลงได้หลายระดับในกรณีที่ต้องการเร่งแซงอย่างรวดเร็ว
Mercedes-Benz C 300 e ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนรุ่นใหม่ที่มีขนาดความจุ 13.5 kWh มากกว่าเดิมถึง 111% ผสานกับประสิทธิภาพของเซลล์แบตเตอรี่ชนิดใหม่ซึ่งมีส่วนผสมของลิเธียม-นิกเกิล-แมงกานีส-โคบอลต์ (Li NMC) ส่งผลให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากความจุ 10% จนเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 50 นาที หากชาร์จด้วยเครื่องประจุไฟฟ้าวอลล์บอกซ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และใช้กำลังไฟฟ้าสูงสุด หากมีการชาร์จไฟจนเต็มที่บ้านก็ใช้พลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องพึ่งพาน้ำมัน พอถึงบริษัทก็ชาร์จอีกครั้งจะได้ใช้พลังงานไฟฟ้าได้อีกครั้ง เมื่อประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่มีน้อยเครื่องยนต์ก็จะกลับมาทำงานอีกครั้ง
ระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยคล้ายกับที่ใช้ใน S-Class อย่างโปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Electronic Stability Program – ESP®) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock braking system – ABS) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light) ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ ABA (Active Brake Assist system)ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST Service interval indicator) ระบบเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure loss warning system) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบอัตโนมัติ (Active Parking Assist) ระบบ DYNAMIC SELECT คือแบบ Sport Sport+ และ Comfort และระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth นอกจากนั้น ยังมีระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Distance Pilot DISTRONIC) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround view camera) และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® surround sound system อีกด้วย