
1988-1993 เปิดตัวด้วยราคา 256,000 บาท (ราคา..เยอรมัน มอเตอร์เวิร์ค สาขา BMW ยนตรกิจ จำกัด ) ..ด้วยราคาวันนี้เทียบกับราคาปีนั้น ปัจจุบันไม่ต่างกันสัก บาท !?!
K1 อาจไม่ใช่ ขีปนาวุธบนท้องฟ้า..แต่ก็เป็น Missile Riders แห่งท้องถนน (จน #Hayabusa ยังต้องไล่ตาม) แต่เป็น Turing Bike สายท่องเที่ยวความเร็วสูงกว่าใคร เพียบด้วยเทคโนโลยีก้าวหน้า ที่สูงด้วยสมรรถนะทรงตัว และมีความมั่นใจบนท้องถนนและสามารถใช้ความเร็ว ยัน 300 สามหลักได้อย่างง่ายดาย ด้วย Fully Dynamic ”
#กำแพงเบอร์ลินพังทลาย และ BMW สร้าง K1 ขึ้นมา
ปี 1989 เป็นปีประวัติศาสตร์แห่งยิ่งใหญ่สายเยอรมัน #กำแพงเบอร์ลินพังทลาย และ BMW สร้าง K1 ขึ้นมา ทั้งโลกยุคนั้นต่างก็ให้ความสำคัญกับ BMW K1 แห่งอนาคตบนหน้าทุกปกนิตยสารในปลายปี 1989 นิตยสารแต่ละเล่มต่างถล่ม Test Ride K1 เร่งแข่งขันกันเผยแพร่ข่าว และให้รางวัล (#The BMW K1 dominated the motorcycle press ) สำหรับการออกแบบนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ หลังจากที่ไบค์สายเยอรมันไม่เคยได้รับรางวัลมาตลอด 30 ปี
BMW K1 เปลี่ยนจาก Air-Cooled Liquid Cooled )))
K-series ได้รับการพัฒนาในช่วงต้นทศวรรษ 1980 และแสดงให้เห็นถึงการก้าวพ้นจากการเสนอขายรถจักรยานยนต์สายสามัญ – Commercial Bikes แนวดั้งเดิมของ BMW
ในปี 1984 BMW ได้เปิดตัว K-series ระบายความร้อนด้วยของเหลว เพื่อทดแทน Boxer ที่ระบายความร้อนด้วยอากาศ เมื่อมองย้อนกลับไปแผนของ BMW นั้นคล้ายกับ #PORSCHE 928 ในการสร้าง V8 ระบายความร้อนด้วยของเหลวเพื่อทดแทนสำหรับระบายความร้อนด้วยอากาศที่น่านับถือของ #911 นั้น ๆ
TBK..เพื่อการเดินทาง..ด้วยความก้าวหน้า..อย่างยิ่งใหญ่
The K1 was designed for autobahn speeds คือโจทย์ใหญ่ในการสร้าง K1 พลังเครื่องยนต์หัวฉีด Bosch – EFI 987 cc 16 Valves , 100 bhp 5 Speed + Dry –Sump , Single Dry –Clutch (คลัทช์แผ่นเดียวแบบรถยนต์) , Cruising Speed Control System – ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระอีกระดับเต็มความสุขในการเดินทาง , ระบบเบรก ABS –Brembo – ป้องกันล้อล็อก , และระบบเพลาขับล้อหลังควบคุมด้วยไฟฟ้าแบบ BMW -Sensor Paralever ที่ทันสมัยกว่าถูกติดตั้งเพื่อจัดการกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น วงล้อเกรด #Mazocchi ขนาด 17 นิ้วขึ้นด้านหน้าและล้อขนาด 18 นิ้วด้านหลังและสนุกไปกับการอัพเกรดสมรรถนะอื่นๆ BMW ใช้เวลากว่าทศวรรษในการเป็นคุณสมบัติหลักอยู่เหนือผู้ผลิตรถจักรยานยนต์โลกรายอื่น ฯลฯ.
K1 มีพลังเหมือนพายุเฮอริเคน เริ่มตั้งแต่ 1,000 – 2,000 rpm ขึ้นไป K1 จะให้แรงดึงน่าประทับใจ แต่เมื่อเข็มกระทบ 4,500 rpm เข้าเมื่อใด มันจะกลายเป็นจรวดบก ก่อนที่จะ Redline แต่เนื่องจาก K1 คือ TBK-Touring Bike มิใช่ Hyper-SBK ดังนี้ K1 จึงไม่จำเป็นต้องชนะการวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด แต่ควรจะสามารถดึง 150 mph / 240 km/h สำหรับการเดินทางอันยิ่งใหญ่ตลอดสาย TRB-Touring Bikes )))
BMW คันแรกที่สามารถขี่โหด ด ด Drifting – Sliding เข้ามุมโค้ง และส่งพลังออกมาอย่างหนักพอที่จะดริฟท์ล้อหลัง !?!
K1 ใช้เพลาขับควบคุมด้วยไฟฟ้า BMW Sensor – Paralever + ABS ใหม่ของ BMW ซึ่งเป็น (และยังคงเป็น) มหัศจรรย์ทางวิศวกรรม K1 นั้นถูกหุ้มไว้ในเปลือกเงาของใยแก้วแนว Fully-Dynamic ผนึกติดเชื่อมต่อกันเจ็ดชิ้นที่ผ่านคลื่นลมด้วยค่าสัมประสิทธิ์การลากต่ำที่ .34 cd : Co-Efficient Drag ซึ่งต่ำที่สุดของสายการผลิตไบค์ในยุคนั้น
1988-1993 Models
เฟรมของ K1 นั้นมีการเปลี่ยนแปลงมากมายรวมถึงฐานล้อที่ยาวขึ้น ท่อเฟรมสั้นกว่า แต่ขนาดท่อที่ใช้ทำเฟรมใหญ่กว่า – Diameter Frame Tubing และระบบกันสะเทือนด้านหลังของ BMW Paralever
1988 โมเดลปีแรกมาในชุดธงชาติเยอรมัน – Schwartz, Rot und Zenf (ดำ, แดง, และมัสตาร์ด) ต่อมา USA – Exported สู่สหรัฐอเมริกาถูกสวมใส่ด้วยสีน้ำเงิน-สีเทาถ่าน และทุกโมเดลปีผนึกลวดลาย + ป้ายตัวอักษร K1 อันศักดิ์สิทธิ์
K1 ..The Universal Bikes..ต้นสายก้าวหน้า..อุตสาหกรรมไบค์โลก
จากนั้นมีราคา ในปีแรกในตลาดสหรัฐอเมริกาในปี 1990 K1 อยู่ที่ $ 13,000 / 325,000 Bht (มากกว่า $ 26,000 / 650,000 Bht เทียบในแง่ดอลลาร์ของวันนี้) จากจุดยืนด้านประสิทธิภาพ ที่ทำให้ K1 ก็กลายเป็น Iconic เฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถ BMW การผลิตสิ้นสุดลงในปี 1993 โดยมีการผลิตเพียง 6,921 คัน แม้ว่า K1 จะมีอายุตลาดน้อยไปนิด แต่ปัจจุบัน BMW K1 ยังคงประสบความสำเร็จในสาย Bikes Evolution แนวทางการ ปรับภาพลักษณ์ของ Universal Bikes อุตสาหกรรมไบค์สายก้าวหน้ามาจนทุกวันนี้ ))))
Iconic..1988-1993 The BMW K1 The Time Machine..สุดอลังก์ ปังตลอดกาล ล ล )))
1988-1993 BMW K1 Specs
Total Porduction : 6,921 Bikes
Engine : liquid-cooled 4-cylinder 4-stroke DOHC
Capacity : 987cc
Bore x Stroke : 67 x 70 mm
Power : 100 bhp @ 8000 rpm
Torque : 74ft-lb @ 6750 rpm
EFI : Bosch Fuel – Injection
Transmission : 5-speed, Dry single plate clutch, Shaft drive
Suspension : Front 41.62mm Telescopic forks,
Rear BMW –Sensor Paralever
Brakes : Front 305mm discs 4-piston Brembo calipers,
Rear 285mm disc 2-piston Brembo caliper
Wheels : 120/70 x 17 160/60 x 18
Weight : 234 kg
Top speed : 150 mph / 240 km/h + Cruising Speed Control System
Wheelbase : 1565 mm
Fuel capacity : 22 ltrs
Weight : 258 kg