Sir William Lyons น่าจะเหนือกว่า Henry Ford หากต้องประหมัดกัน..ท่านแรกสร้างรถแพงๆ ขายถูก ๆ !?! ส่วนอีกท่าน ทำรถถูกๆ ขายดี !?@#$% .. อิอิอิ
แค่ตำแหน่งชนชั้น Sir นั่นก็เป็นฐานคิดให้ Jaguar Cars Coventry ไม่ธรรมดามาแต่กำเนิดผู้ประดิษฐ์ #1922 Swallow Sidecar ..อันมีความหมายว่า นั่งกินบิสกิต จิบชายามบ่ายได้สบายๆในท้องถนน London – Coventry และทุกท้องถนนชนบท England )))
ดังนี้หน้าที่ของ Jaguar Cars จึงมาด้วยความตั้งใจ จริงจัง ซะมากกว่า Ford Motors อย่างมิพึ่งสงสัย..ว่ากันว่าถ้า Jaguar คือ Opera .. Ford น่าจะเป็น Mouth Organ !?@!#%
The Jaguar Theory ..ทฤษฎีจากัวร์ เป็น Grand Tourer หรูหรารวดเร็วในราคาทุกคนเข้าถึง แต่ละโมเดลของ จากัวร์ จะเวียนวนเพื่อครอบครองท้องถนนและชัยชนะ ถ้าจะสรุป Jaguar คือ GT ที่ครองชัยชนะมากที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขัน นั่นคือตราประทับที่ทำให้ autowoke.com ต้องนำมาเล่าสู่
Jaguar XJ-S..เป็นคลาสสิกคาร์ตลอดกาล )))
เพื่อได้ใกล้เคียงกับโจทย์ของน้องชายฉัน เกิดทะลึ่งจะปีนป่ายขึ้น Top Hat สวมหมวกลอนดอนเน่อร์ทรงสูงแบบท่าน Sir ด้วยราคาแค่รถกระบะดีเซลทีมันพอจะหาปัญญาซื้อหามา Collection เก็บไว้ได้ กระแทกไหล่ กับ New Rolls สาย Supercars ประดามีที่เมืองไทย (ปัจจุบันมันขับ #Mini R56-JCW ที่มีโควต้าขายในไทยเพียง 25-26 คันเท่านั้นใน ปี 2012)
ทันทีฉันก็ระลึกชาติถึง 1975 XJ-S..รถจากัวร์โดดเด่นที่สุด ณ ยุคปี 1975-96 ที่ยังพร้อมใช้งาน
หะแรกฉันบอกน้องว่า..มันจะจ่ายค่า XJ-S Classic Cars = ราคาเท่ารถกระบะสายพันุ์แกร่ง = ค่าซ่อมแซมฟื้นฟูบูรณะถูกกว่า R56 ที่มันเพิ่งโดนอู่มินิฟันหัวแบะ ไป 4.5 แสนบาท..โดยราคาซ่อม Mini เดียวกันนั้นมันจะได้รับ 1975-1996 Jaguar XJ-S ที่เรากำลังนั่งแหกตาจดจ่ออยู่หน้า Website
ในนั้นเว๊บนั้น XJ-S มีให้เราเห็น ทั้ง 2 ประตูคูเป้ท้าย Lift Back และ Targa Top เปิดประทุนทันสมัย
XJ-S อัจฉริยะ..รถ !?!
XJ-S พัฒนาจากแพลตฟอร์ม 1968-1973 XJ Series I – Sedan ที่ยาวนานมาถึง 3 Series (นี่คือความเป็นอัจริยะ..รถ ของ Jaguar by Sir William Lyons ที่ Henry Ford มิบังอาจ )))
สายการผลิต XJS มีต้นทุนเพียงแท่นปั๊มตัวถัง ดังนั้นมันจึงขายไปไม่ตลอด 20 -22 ปีผลิตของมัน ด้วยเครื่องยนต์บิ๊ก DOHC 5.3 V12 ทรงพลัง ก่อนจะปรับสู่ยุค ‘90s Low-Emission ด้วย 6-cyl DOHC 3590 – 5343 – 5993 cc เครื่องยนต์ V12 แต่จงจำไว้เถิดว่า XJ-S ยุค ‘70s รุ่นเปิดกรุ 5.3L V12 จะเหนือกว่าเสมอ แต่สำหรับคนชอบปะทะ จากัวร์คาร์ ยังมี XJR-S ที่มีประสิทธิภาพสูง 5.3 & 6.0 ลิตร V12 ไว้ปะทะกับ Supercars ลูกๆหลาน HA Ha ha a a )) -)
1975 – 1981 Series I .. หักปากกาเซียน !?!
XJ-S ได้รับการแนะนำในวันที่ 10 กันยายน 1975 การออกแบบและการพัฒนาที่ตั้งท่ามาตั้งแต่ปี 1960 โดยชื่อรหัสของโครงการ XJ27 ด้วยรูปร่างที่ออกแบบวาง Jaguar V12 เพื่อลงถนนปะทะกับอิตาลี Lamborghini V12 + Ferrari V12 ในราคาที่เทียบเท่า Porsche 911 SC ธรรมดา
แต่ไม่นาน จากัวร์ จึงเปิดตัว XJ-S 5.3 V12 แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์สักพัก แต่ด้วยสนนราคา กว่าครึ่ง เมื่อเทียบทุกสิ่งทุกอย่างกับ Lambo+Ferri ทำให้ XJ-S Series 1 ที่ให้ความหรูหราระดับ GT Class ที่เหนือกว่าจึงหักปากกาเซียนด้วยยอดผลิต 14,800 ใน 5 ปีผลิต
1981–1991 Series II ..ระเบิด ระเบ้อ )))
ยุค ‘90s ทีนี้ตามด้วย XJ-S H.E. , 3.6, XJ-SC เพื่อผจญ..มลภาวะ
เครื่องยนต์ประวัติศาสตร์ V-12 เมื่อต้องผจญกฎหมายมลภาวะยุค ‘90s USA-Low Emission Control ต่อมาจึงค่อยเพิ่ม Evo 3.6 6cyl ที่พัฒนาใหม่ เพื่อส่งออก พร้อมกับ 5.3 V12 ระบบหัวฉีด EFI ให้ไปต่อได้ในยุค ‘90s Low -Emission
Series II 1981-1991 มียอดการผลิต 73.207 คันด้วยชิ้นส่วน Spare Parts เดียวกับกับ Series I ที่พิเศษหากันให้ควั่ก คือ 1983-1988 Targa Top 2 Doors ที่มียอดผลิตเพียง 265 คัน)
ที่เหนือชั้นคือ 1981 XJS HE เครื่องยนต์ High-Efficiency V12 ประสิทธิภาพใหม่ เพื่อประหยัดเชื้อเพลิง + Low Emission ที่ดียิ่งขึ้นด้วยห้องเผาไหม้ Fire Ball พลัง 295 bhp พร้อมการปรับปรุงความปลอดภัยเพื่อส่งขายใน USA
แต่ XJ-S ที่ขายดีคือรุ่นปี 1983 เครื่องยนต์ 3.6 ใหม่ที่เรียกว่า XJ-SC ที่มีโครงสร้างหลังคาแบบ Targa-Top ที่ไม่สามารถถอดออกได้ 100 % แต่รับประกันจัดเต็บความปลอดภัย USA-California Safety Laws
XJ-SC เทพ..Targa – Top
แม้ XJ-SC Targa-Top แบบสองที่นั่งจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาด XJ-S จากลูกผสม GT + Safety Cars ที่สุด XJ-SC จึงถูกแทนที่ด้วย Topless รถเปิดประทุนแบบสองที่นั่งเต็มรูปแบบในปี 1988 เพื่อรักษาความยอดนิยม..แต่ปัจจุบัน XJ-SC Targa-Top คือเทพแห่ง XJ-S Grand Tourer ที่สาวกจากัวร์ต่างร้องหาขี้มูกโป่ง ง ง ง ง !?@#$%
1973-1996 ยอดผลิต ทะลุแสน น น น )))
ที่ผ่านมาสำหรับเมืองไทย Jaguar ถูกประณามเป็น “Junkguar..จังค์กัวร์” เพราะฐานอะไหล่ที่เวียนวนใช้แทบไม่เหลือ อ อ ให้หยิบใช้บุรณะ ทว่าในยุค 4.0 Digitalized -Alibaba+Website รายนามผู้ค่าอะไหล่ Jaguar Spare Parts ยัน Jaguar Second Hand ล้วนมากมี นี่คือสิ่งสำคัญอันธำรงไว้สำหรับ World Wide XJ-S บนพื้นฐานชิ้นส่วนอะไหล่ Spare Parts ร่วมกับ 1968 XJ6 +1973 XJ12 -V12 ที่มียอดผลิตต่อเนื่องยาวนานจนเป็นสถิติ Series I-II-III เดียวกันตลอด 10-20 ปี ( นี่ยังมิได้รวมถึง Avatar –Jaguar สำนัก Tune Cars หลากหลาย ที่เล่นสนุกกับตลอด 10 ปีที่ XJ-S ออกสู่ตลาดโลก
1973-1996 ตลอดประวัติศาสตร์ XJS มียอดผลิตระหว่าง 20 ปีวิ่งกว่า 115,000 คัน ปัจจุบันมันพวกจึงมี Spare Parts ชิ้นส่วนอะไหล่มากมายในตลาดปิดและเปิด Dark & Open Markets นี่คือสิ่งรับประกันที่น้องชาย Mini R56 ของฉัน..มันจะไม่มีวันมาด่า แม่ ง ง ง ของฉันได้ !?@#$%..หุ หุ หุ
XJ-S Versions
– 4.2 (1975)
– 3.6 (1983)
– 4.0 (1991)
– 4.0 (1993)
– 4.0 Auto (1991)
– 4.0 Auto (1993)
– HE V12 (1983)
– R 6.0 V12 (1990)
Jaguar XJS HE V12 Engine Technical Data Specs
- Engine : DOHC V 12 5,343 cc 24 Valves
- Fuel System : EFI Lucas Petrol –Digital Injection
- Bore x Stroke : 90 x 70 mm
- Compression Ratio : 12.5 : 1
- Power : 295 PS or 291 bhp @ 5500 rpm
- Torque : 317 lb.ft @ 3000 rpm
- Transmission : AT 3 Speed Automatic Transmission
- Top Speed : 240 km/h
- Dimensions : L x W x H : 476.4 x179.3 x 126.1 cm
- Wheelbase : 259.1 cm or 102.01 inches
- Tyres -Rims : Front -Rear 215/70 R15 – 215/70 R15
- Weight : 1755 kg