เอกลักษณ์ของรถยนต์ค่ายวอลโว่ที่คนไทยรู้จักกันดีก็คือเป็นรถตัวถังหนัก เครื่องยนต์เล็ก วิ่งไม่ค่อยออก กินน้ำมันเยอะ แต่กับจุดขาย ทุกชีวิตปลอดภัยในวอลโว่ ทำให้รถจากค่ายนี้ยังยืนหยัดอยู่ได้ แต่การปรับเปลี่ยนของ เอส60 ได้ทิ้งความรู้สึกเก่าๆไป จนเหมือนกับไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โดยเอส60รุ่นแรกๆเหมือนกับการย่อส่วน เอส 80ให้เล็กลง เวลามองไกลๆ แทบจะแยกไม่ออกว่าเป็นรุ่นไหน กำลังของเครื่องยนต์ก็ไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเรื่องอัตราเร่งจากตัว เอส 80 มากนัก แต่เอส60รุ่นนี้ถูกปรับเปลี่ยนแบบไม่ทิ้งร่องรอยเดิม สร้างความแตกต่างไปจากเอส 80 ได้เป็นอย่างดี เมื่อเลือกตัวถังที่มีเส้นโค้งแบบรถ 4 ประตูคูเป้ มีหลังคาลาดลงต่อเนื่องมาใช้
ดูสะดุดตากับรูปโฉมของความเป็นรถสปอร์ตซีดาน ให้ความรู้สึกปราดเปรียวที่สะท้อนมาจากรถแข่ง ด้วยตัวรถที่ต่ำลงให้อารมณ์ความเป็นสปอร์ตมากขึ้น อีกทั้งยังได้ความเพรียวลม เกาะถนนดีขึ้น ด้วยอารมณ์ของรถคูเป้ 4 ประตู กับโครงหลังคาเหนือประตูหลังที่ลาดลงไปทางท้ายรถ สื่อถึงพลังในการทะยานไปข้างหน้ามีความเป็นสแกนดิเนเวียนอย่างชัดเจน ด้วยรูปทรงด้านหน้าที่แหลมกว่าเดิม มีร่องบังคับทิศทางการไหลของอากาศออกไปทางด้านข้าง ผ่านโคมไฟหน้าทรงเรียวที่ฝังไฟโปรเจคเตอร์เอาไว้ กลางวันมีไฟเดย์ไทม์ติดไว้ระหว่างไฟหน้ากับกันชน กระจังหน้าขนาดใหญ่รับลมได้เต็มที่สำหรับการระบายความร้อนให้กับหม้อน้ำ
ไฟข้างกระจังหน้าถือว่าเป็นดีเอ็นเอของวอลโว่ในการใช้ไฟแอลอีดีที่มีแสงเรืองแปลกตากว่ารถคันอื่น การวางตำแหน่งไฟหน้ารถในแนวตั้งที่คิ้ว ไฟเลี้ยวทรงยาวบนกระจกมองข้าง และไฟท้ายที่ขอบกระโปรงด้านบนถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถรุ่นนี้ สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อเข้าสู่ความมืด ไฟหน้าจะหักเหไปตามพวงมาลัย สามารถปรับระดับขึ้น – ลงได้โดยอัตโนมัติ ให้แสงสว่างและส่องทางหักเหไปตามการหมุนของพวงมาลัยให้เลี้ยวโค้งตามท้องถนน ช่วยได้เยอะเวลาขับบนเส้นทางที่มีทางโค้งเยอะๆ
ภายในห้องโดยสารได้เสียงเงียบ จากการลดการปะทะของกระแสลม ภายในห้องโดยสารให้ความรู้สึกที่ไม่แตกต่างไปจากรถหรูทั่วๆไป แต่ได้การใช้งานที่ง่ายกว่าจากแผงควบคุม ตรงคอนโซลกลางจะหันเข้าหาคนขับเพื่อง่ายในการใช้งาน ปุ่มควบคุมมีน้อยจุดและเพิ่มจอแสดงผลเอาไว้ตรงกลาง
ช่องเสียบกุญแจพร้อมปุ่มกดสตาร์ทสามารถกดปุ่มได้โดยไม่ต้องเสียบกุญแจ มาตรวัดจอกลมแบบสปอร์ต มีมาให้แค่ 2 วง ซึ่งก็มองเห็นได้ชัดเจนดี พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นใช้งานง่ายกับปุ่มกดบนพวงมาลัย รับกับเบาะนั่งสไตล์สปอร์ตหรูขนาดใหญ่ เสริมความนูนให้กับด้านหน้าของเบาะ ทำให้นั่งได้กระชับสบายกว่ารุ่นก่อนเยอะ
เครื่องยนต์ที่นำมาวางความจุ 1.6 ลิตร หลายคนอาจจะปรามาสว่าเล็กเกินไป แต่เครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้เล็กพริกขี้หนู เป็นเครื่องยนต์อลูมิเนียมน้ำหนักเบา ใช้เทคโนโลยีใหม่ ฉีดน้ำมันเบนซินตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ เมื่อมีอากาศอัดเข้ามาโดยเทอร์โบที่ทรงพลัง เครื่องยนต์ 4 สูบ 1.6 ลิตร ก็สามารถให้กำลังสูงถึง 180 แรงม้าที่ 5700 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงถึง 240 นิวตันเมตร ที่ 1600 – 5000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติแบบคลัตซ์ คู่ 6 สปีด ถูกเลือกมาใช้ สามารถรองรับกำลังและส่งต่อได้อย่างต่อเนื่อง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลา 19 วินาที เกียร์เพาเวอร์ชิฟท์จะปรับสไตล์การขับขี่และเกียร์ทรอนิก ส่งกำลังไหลลื่นอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนเกียร์ราบรื่น ไม่มีอาการกระตุก รอบเครื่องยนต์ต่ำ ประหยัดขึ้นอีกเยอะ
เสียงจากปลายท่อเมื่อใช้รอบสูงเหมือนรถสปอร์ต ความเร็วเพิ่มขึ้นทันทีเมื่อเท้าถูกเพิ่มแรงกด อัตราเร่งมาอย่างรวดเร็วทำให้ขับสนุกต่างไปจากวอลโว่รุ่นอื่นๆ อีกทั้งความประหยัดก็เหนือกว่าทำได้เกิน 10 กม./ลิตร แม้จะใช้ความเร็วสูงก็ตามเป็นจุดขายเรื่องความปลอดภัยที่สร้างความแตกต่างให้กับเอส60จากค่ายอื่นๆ นั้นมีมาก เรียกว่ายากจะหาได้จากรถระดับราคาเดียวกัน