เพื่อใช้ในการทำเกษตรกรรม โดยต่อยอดจากการใช้คลุมพื้นดินรอบโคนต้นยูคาลิปตัสป่าปลูก ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในธุรกิจของเอสซีจี แพคเกจจิ้ง เนื่องจากกระดาษคู่ดินมีคุณสมบัติพิเศษ สามารถคลุมป้องกันวัชพืชที่แย่งธาตุอาหารจากดิน รวมถึงสามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นของผิวดินให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม ส่งผลให้ต้นกล้ายูคาลิปตัสแข็งแรงและเจริญเติบโตได้ดี การวิจัยและพัฒนาครั้งนี้ จึงประโยชน์สำหรับการทำเกษตรกรรมอื่น ๆ ที่ต้องการเกษตรประณีต รวมถึงต้องการลดการใช้สารเคมี อาทิ การปลูกผักและผลไม้เมืองหนาวในประเทศไทย ซึ่งต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ ทั้งเรื่องวัชพืช อุณหภูมิ สภาพแวดล้อม และการควบคุมการใช้สารเคมีในระบบการทำการเกษตรแบบอินทรีย์ที่กำลังได้รับความนิยม
“คิด-จาก-ถุง” ทางเลือกสินค้าแฟชันรักษ์โลก ก้าวข้ามกำแพงธุรกิจขายปูน
“เราเติบโตมาจากธุรกิจการผลิตและขายปูนมากว่า 100 ปี แต่วันนี้เราขยายโอกาสด้วยการ Upcycle ถุงปูนที่รอทำลาย ให้เป็นสินค้าแฟชัน-ไลฟ์สไตล์รักษ์โลก ตามหลัก Circular Economy ด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ที่มองหาเพื่อนร่วมธุรกิจเป็นพาร์ทเนอร์” ถุงบรรจุปูนซีเมนต์ที่รอทำลายในโรงงานที่กลายมาเป็นสินค้าสุดแนว ทั้งกระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย เป้สุดชิค หลากหลายไอเท็มที่คนสายแฟชันต้องมี (Must Have) ภายใต้ชื่อ “คิด-จาก-ถุง” กลายเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของเอสซีจี ในการชิมลางพลิกบทบาทจากผู้ผลิตซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง สู่การเป็นผู้นำแฟชันไลฟ์สไตล์ ด้วยการหาเพื่อนร่วมทำธุรกิจและชุบชีวิตถุงบรรจุปูนซีเมนต์ให้กลายเป็นสินค้าสายแฟชันที่สะท้อนการใช้ชีวิตแบบรักษ์โลก
ส่องโมเดลธุรกิจ SCG Packaging สร้างความแตกต่างด้วย Comprehensive Packaging Solutions
ตราบใดที่ผู้ประกอบการยังมีการผลิตและขนส่งสินค้าและผู้บริโภคยังมีการจับจ่ายใช้สอย ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ก็มีทิศทางเติบโตได้ต่อเนื่องสอดคล้องไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่เต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจ โดยคาดการณ์อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Nominal GDP) ของทั้ง 4 ประเทศดังกล่าว ในปี 2562-2567 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ 7.5% ต่อปี(1) รวมทั้งผลของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่สำคัญ (megatrends) เช่น การเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การที่ผู้บริโภคให้ความใส่ใจกับผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงทางด้านประชากรศาสตร์และไลฟ์สไตล์ ล้วนเป็นปัจจัยส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจบรรจุภัณฑ์ได้อย่างต่อเนื่องในอนาคตอีกด้วย
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงนามความร่วมมือโครงการ Zero Burn ลดการเผาฟางข้าว
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ กรมควบคุมมลพิษ หน่วยงานราชการในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานเกษตร สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งภาคเอกชน ได้แก่ เอสซีจี สยามคูโบต้า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และผู้แทนชุมชน ลงนามความร่วมมือ “โครงการ Zero Burn ลดการเผาฟางข้าว แก้ปัญหา PM 2.5 และภาวะโลกร้อน” ด้วยการรับซื้อเศษฟางข้าวเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทนในโรงงานปูนซีเมนต์ เสริมรายได้ให้เกษตรกรไทย และสอดคล้องกับแนวคิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยจะเริ่มรับซื้อในช่วงเดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะลดการเผาฟางข้าวได้ประมาณ 20,000 ไร่