เอสซีจีแถลงผลประกอบการปี 2562 พร้อมเผยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ สู้ศึกดิสรัปท์ ชันจากปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ในปี 2563 ด้วยการเร่งทรานสฟอร์มทุกปัจจัย ภายใน พลิกโฉม 3 กลุ่มธุรกิจ และติดอาวุธพัฒนาคน โดยเปลี่ยนจากผู้ผลิต มาเป็นผู้ ส่งมอบโซลูชันและนวัตกรรมสินค้า-บริการครบวงจร (Solution & Services Provi- der) อย่างฉับไว เหนือความคาดหมาย พิชิตใจลูกค้าทั่วภูมิภาคอาเซียน เพื่อมุ่งรักษา การเติบโตให้ธุรกิจอย่างยั่งยืน
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า งบการเงิน รวมก่อนตรวจสอบของเอสซีจี ประจำปี 2562 มีรายได้จากการขาย 437,980 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 8 จากปีก่อน เนื่องจากราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลง โดยมีกำไร สำหรับปีก่อนรายการปรับเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน 34,049 ล้านบาท ลดลง ร้อยละ 24 จากปีก่อน ทั้งนี้ หากรวมรายการดังกล่าวมูลค่า 2,035 ล้านบาท จะทำให้ เอสซีจีมีกำไรสำหรับปี 32,014 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 28 จากปีก่อน จากผลประกอบ การที่ลดลงของธุรกิจเคมิคอลส์
นอกจากนี้ เอสซีจียังมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ รวมการส่งออก จากประเทศไทย ในปี 2562 ทั้งสิ้น 180,004 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 41 ของยอด ขายรวมลดลงร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้เอสซีจีมีรายได้จาก การส่งออกจากประเทศไทย 102,152 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 23 ของยอดขายรวม ลดลงร้อยละ 22 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายรุ่งโรจน์ กล่าวว่า “จากความผันผวนของปัจจัยภายนอก ต่าง ๆ ที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจทั่วโลกอย่างมากใน ปีที่ผ่านมา ทำให้ปี 2563 เป็นปีที่เอสซีจีต้องเร่งปรับกลยุทธ์การ ดำเนินธุรกิจให้สู้ศึกดิสรัปท์ชันเหล่านั้นได้อย่างทันท่วงทีและ สามารถรักษาการเติบโตของธุรกิจไว้ได้อย่างยั่งยืน ด้วยการทราน- สฟอร์มปัจจัยภายในทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ (Business Transformation) จากเดิมที่เป็นผู้ผลิตสินค้าเพียงอย่างเดียว มาเป็นผู้ส่งมอบ โซลูชันและนวัตกรรมสินค้า-บริการ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้อง การที่แท้จริงของลูกค้าที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงไป ตลอดเวลาได้อย่างครบวงจร และสามารถสร้างมูลค่าให้ธุรกิจได้สูง ควบคู่กับการพัฒนาบุคลากร (People Transformation) ซึ่งเป็น พลังสำคัญในการขับเคลื่อนกระบวนการเปลี่ยนแปลง ให้มีทักษะที่จำเป็น สามารถเข้าถึงและเข้าใจลูกค้าทุก กลุ่มทั่วภูมิภาคได้อย่างลึกซึ้ง สามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัล ต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ การแข่งขันและสามารถตอบสนองต่อความต้องการเหล่า นั้นได้อย่างทันท่วงที
ขณะที่ตลาดสำหรับการลงทุนนั้น เอสซีจีจะยังเดิน หน้าส่งมอบโซลูชันสินค้าและบริการทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจที่ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในตลาดอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ที่ มีโอกาสและการเติบโตสูง นอกเหนือจากการมองหา ตลาดใหม่ ๆ ในภูมิภาคอื่น ๆ ที่สามารถสร้างโอกาสให้ ธุรกิจได้เช่นกัน ผ่านการสร้างความร่วมมือกับกลุ่มคน องค์กร สถาบัน และภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งในและต่างประ เทศ เพื่อร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามคำมั่นสัญญา “Passion for Better” ให้ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น”