เทสลา โรดสเตอร์เป็นรถพลังงานไฟฟ้าล้วนจากอเมริกา เปลี่ยนพลังไฟฟ้าเป็นแรงขับคลื่อนให้กับรถสปอร์ตแรงสูงแบบไม่ต้องพึ่งพาน้ำมัน
รูปโฉมของเทสลาเหมือนกับรถสปอร์ตจากค่ายโลตัส เห็นได้ถึงความปราดเปรียวของเส้นสายการออกแบบ ด้านหน้ามีช่องระบายอากาศให้ไหลผ่านได้อย่างรวดเร็ว
การออกแบบเน้นหลักอากาศพลศาสตร์สำหรับรถสปอร์ตความเร็วสูง หลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ แม้ว่าไฟหน้าจะเป็นฮาโลเจนแต่ให้แสงสว่างที่ชัดเจนส่องไปได้ไกล ไฟท้ายเป็นหลอดแอลอีดี
การเข้าออกจะทำได้ยากสักหน่อย มือจับเปิดประตูเล็กๆไม่โผล่พ้นมาจากตัวถัง เพื่อลดการต้านลมแม้จะเป็นแค่จุดเล็กๆ ก็ตาม สันล่างของขอบประตูด้านสูง การก้าวลงไปนั่งจะยากสักหน่อยสำหรับคนตัวใหญ่ๆ เบาะนั่งออกแบบให้บางเฉียบด้วยรูปทรงของเบาะรถแข่งบุหนังแท้แต่มีความบางมากเพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองพื้นที่
เบาะนั่งวางเกือบติดกับพื้นที่เหยียดขาตรงไปยังแป้นเหยียบออกแบบมาในสไตล์รถแข่ง ถึงเบาะจะบางแต่ก็นั่งสบายไม่ปวดหลังเวลาขับติดต่อกันนานๆ
บนแผงคอนโซลมีปุ่มควบคุมมาให้น้อยชิ้น ใหญ่สุดก็จะเป็นเครื่องเล่นดีวีดี พร้อมจอที่เชื่อมต่อกับกล้องถอยหลังซึ่งจะแสดงภาพด้านหลังมาให้เห็นตอนถอยรถ ปุ่มควบคุมเครื่องปรับอากาศเป็นปุ่มเล็กๆ 3 ปุ่ม พร้อมปุ่มกดเลือกอากาศหมุนวนและการทำความเย็น รถคันนี้ไม่มีคันเกียร์ แต่จะมีปุ่มกดเลือกการขับเคลื่อนติดไว้ให้แทน
พวงมาลัยโมโมวงเล็กหนักมือเอาเรื่อง การหักเลี้ยวในช่วงรถในช่วงรถจอดนิ่ง ๆ จะหนักมือมาก แต่พอรถเคลื่อนตัวก็เบามือขึ้นมาหน่อย ให้ความแม่นยำกับจังหวะการหักเลี้ยวเป็นอย่างดี เมื่อเสียบกุญแจเข้าตำแหน่ง บิดสตาร์ทจะไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์มีแต่เสียงดังของสัญญาณบอกถึงความพร้อมของระบบที่จะขับเคลื่อน
ปุ่มเลือกการขับเคลื่อนจะมีไฟเขียวขึ้นในตำแหน่งตัวที่เหนือเบรกมือขึ้นไปเล็กน้อย มีหน้าจอแสดงผลของกำลังไฟที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่ว่าจะเดินทางไปได้กี่ กม. กดปุ่มดีไฟเขียวติดขึ้นมา เมื่อกดคันเร่งรถก็พุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วตามน้ำหนักเท่าที่กดลงไป บนจอมาตรวัดจะแสดงถึงความเร็วทั้ง กม.และไมล์ อีกจอหนึ่งจะบอกถึงกำลังที่ใช้ไปเป็นกิโลวัตต์
ถอนเท้าออกมาจากคันเร่งจะพบกับแรงหน่วงที่ชะลอความเร็วรถลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับเข็มมาตรวัดเปลี่ยนเป็นบอกถึงการชาร์จไฟในช่วงนั้นแทน มีระยะทางที่เหลือบอกไว้ด้วย เบรกแทบจะไม่ได้ใช้ตอนชะลอรถซึ่งเป็นข้อดีของรถพลังไฟฟ้า อัตราเร่งมาได้ทันใจถึงจะเป็นรถที่ใช้การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าก็ตาม แต่ก็ให้กำลังสูงถึง 228 แรงม้าที่ 5,000 – 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงถึง 295 นิวตัน – เมตรที่ 4,400 – 6,000 รอบต่อนาที
กลางรถจะเป็นพื้นที่เก็บของแบตเตอรี่แบบลิเธียมอิออนซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักเบา มีความทนทานสูง ขนาดไฟ 32 แอมป์ มีความจุมากกว่าแบตเตอรี่ทั่วๆไปถึง 2 เท่า ใช้เวลาชาร์จไฟแต่ละครั้ง 7 ชั่วโมงครึ่ง การชาร์จไฟยากสำหรับครั้งแรก แต่พอเรียนรู้แล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นเท่าไหร่นัก เพียงแค่เปิดฝาคล้ายๆ ฝาถังน้ำมันก็จะเห็นช่องเสียบไฟอยู่
สายชาร์จเก็บเอาไว้ในช่องเก็บของท้ายรถมีเขี้ยวเพื่อป้องกันเสียบผิดช่อง ใส่เข้าไปแล้วบิดเล็กน้อยก็เข้าที่อีกฝั่งก็เสียบเข้ากับปลั๊กไฟบ้านทั่วๆ ไป กดปุ่มบนสายเสียบเพื่อบอกถึงการชาร์จไฟ แค่นี้ก็เรียบร้อย
ในสไตล์ของรถสปอร์ตแรงสูงต้องยอมรับว่าช่วงล่างหนึบมาก ไม่เหมือนกับรถแข่งที่หนึบแต่กระด้าง ผิดกับเทสลา โรดสเตอร์ช่วงยุบมีน้อยไม่ให้ยืดตัวเร็ว การซับแรงกระแทกจึงทำได้ดี ถนนขรุขระในกรุงเทพฯ ช่วงนี้ก็ไม่ทำให้ท้องไส้สั่นคลอนเวลาใช้ความเร็วสูง