รถกระบะ วีโก้ถือว่าเป็นรถกระบะอายุที่ยาวนานมากเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2004 มีการปรับปรุงมาตลอดเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมกับเพิ่มจุดเด่นให้กับรถเพื่อรักษาความเป็นหนึ่งให้ได้อย่างต่อเนื่องมาถึงรุ่นนี้ วีโก้ก็มีการปรับตัวอีกครั้ง ตั้งรับคู่แข่งที่ทยอยปรับเปลี่ยนด้วยการอาศัยจุดแข็งที่มีอยู่แล้ว เพิ่มประสิทธิภาพทั้งเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง รวมถึงช่วงล่างให้ดูดีขึ้น
จุดขายหลักจะเป็นในเรื่องของระบบส่งกำลัง ที่มีการเปลี่ยนเป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และเพิ่มรุ่น 2.5 เกียร์ออโต 5 สปีด ในรุ่น 4 ประตูขับสองยกสูง จะได้ระบบส่งกำลังที่ราบรื่นขึ้นกว่าเดิมในรุ่น 3.0 นอกจากจะเปลี่ยนเกียร์ 5 สปีดมาใช้แล้วยังมีการปรับเพิ่มกำลังเครื่องยนต์จากเดิม 163 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที มาเป็น 171 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดจากเดิม 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,200 รอบต่อนาที เป็น 360 นิวตันเมตร ที่ 1,400-3,400 รอบต่อนาที
เครื่องยนต์ที่ถูกปรับมาก่อนหน้ายังคงใช้งานต่อได้ เป็นเครื่องยนต์ระบบไดมอนเทคที่ได้ความประหยัด จากการทำงาน 3 ประสานระหว่างกล่องอีซียู ที่เรียนรู้ในการใช้งานจึงสร้างการฉีดน้ำมันอย่างแม่นยำ ด้วยการจ่ายน้ำมันส่วนเกินเวลาลดความเร็วของเครื่องยนต์ มีการแยกการคำนวณและสั่งจ่ายน้ำมันอย่างอิสระ ในแต่ละกระบอกสูบ
ในส่วนหัวฉีดที่แกร่งเหมือนเพชร ลื่นไม่อุดตัน ฉีดน้ำมันเป็นฝอยละเอียด โดยมีการฉีดน้ำมันเป็นฝอยละเอียดโดยมีการฉีดน้ำมันเข้าก่อนจุดระเบิดเป็นหัวฉีดที่เคลือบสารพิเศษ Diamond Liked Carbon Coating ภายในเข็มหัวฉีด ทำให้จ่ายน้ำมันได้คล่อง ลดการเกาะตัวของคราบเขม่าที่เกิดจากเผาไหม้ ของน้ำมันบริเวณหัวฉีด
เทอร์โบแปรผันที่ถูกปรับครีบด้วยมอเตอร์จะทำงานได้เร็วกว่าพวกเวตเกจ โดยมีกล่องอีซียู 32 บิท เป็นตัวเป็นตัวควบคุมจึงสั่งได้ตามองศาการจุดระเบิด ที่จะช่วยรักษาอัตราเร่งได้ดีในทุกความเร็วรอบ ปั๊มแรงดันน้ำมันที่ 190 เมกะปาสคาล จะทำงานครึ่งเดียวของรอบเครื่องยนต์เป็นของเดนโซ จึงไม่ทำงานหนักมาก มีอีจีอาร์คูลเลอร์ช่วยลดอุณภูมิของไอเสียก่อนนำเข้าไปสู่ห้องเผาไหม้ทำให้ไอเสียลดปริมาณลง ไอดีเพิ่มขึ้น กำลังไม่ตก จึงไม่ต้องไปอุดอีจีอาร์ให้เสียเวลา
เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร วีเอ็นเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์จะให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 43 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด มีการปรับเปลี่ยนอัตราทดใหม่ทั้งหมดในเกียร์ 1 และเกียร์ 5 อัตราทดจะออกมากกว่าเกียร์ 4 สปีดเดิม จึงมีการปรับอัตราทดเฟืองท้ายตามไปด้วย อัตราเร่งช่วงออกตัวจะดีขึ้นกว่าเกียร์ 4 สปีดเดิม ความราบเรียบในการเปลี่ยนเกียร์ดีขึ้น อาการกระตุกช่วงเกียร์เปลี่ยนแทบจะไม่รู้สึก รอบเครื่องยนต์ลดลงเหลือ 1,900 รอบ/นาที ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. อัตราบริโภค 12.9 กม./ลิตร ความเร็วสูงสุดเกิน 180 กม./ชม.
นอกจากจะปรับในเรื่องของเครื่องยนต์แล้ว ช่วงล่างก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ถูกปรับปรุงเพราะมีหลายคนที่บ่นเรื่องช่วงล่างของโตโยต้ากระด้างเกินไป ทำให้นั่งไม่สบาย โดยเฉพาะรุ่น 4 ประตูที่เน้นการใช้งานเป็นรถนั่งส่วนบุคคลที่ไม่สนเรื่องการบรรทุกอยู่แล้ว
ระบบช่วงล่าง DTS จะมีการปรับปรุงค่า K ของสปริงเพื่อให้ได้ความนุ่มนวล พร้อมกับการปรับยืดตัวของโช้คอัพในการเกาะถนนได้หนึบขึ้น บู๊ชสปริงโตรองรับการกระแทกได้ดีขึ้น รวมทั้งการปรับค่ามุมแคสเตอร์ล้อหน้ามากขึ้น เพื่อให้หน้ายังสัมผัสพื้นเต็มที่ตลอดเวลา