“มโนยนต์” มั่นใจตลาดสินค้าอะไหล่รถยนต์ทดแทนในไทยยังเติบโต หลังยอดขายปี 2562 พุ่งพร้อมเดินหน้าเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในตลาดชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ทดแทนระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เร่งเครื่องดัน TOKICO โกยยอดขาย ออกโช้คอัพสำหรับรถรุ่นใหม่กว่า 10 รุ่น คาดปีนี้เติบโตกว่า 10%
ดร.ปรเมศร์ ลี้โกมลชัย กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทมโนยนต์ และ รองประธานกรรมการ บริษัท เอ็ม.เอ็น. อินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด ผู้จัดจำหน่ายโช้คอัพ TOKICO (โทคิโคะ) ผู้เดียวในประเทศไทย เผยว่า “กว่า 5 ทศวรรษ กลุ่มบริษัทมโนยนต์ ดำเนินธุรกิจด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับแถวหน้าของประเทศไทย โดยกลุ่มบริษัทมโนยนต์ในส่วนของธุรกิจสายการค้า (Trading Business) ดูแลตลาดสินค้าชิ้นส่วนอะไหล่ทดแทน (Replacement Market) ทั้งในประเทศและส่งออก มีบริษัทในเครือ 14 บริษัท โดยจำหน่ายสินค้าอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ทดแทน เช่น สินค้าในกลุ่มคลัทช์, เบรก , ช่วงล่าง, กลุ่มน้ำมันและผลิตภัณฑ์ของเหลว ชิ้นส่วนอะไหล่ที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ ชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องยนต์สำหรับรถบรรทุก เครื่องจักรเพื่อการเกษตร และก่อสร้าง ที่มีคุณภาพ ด้วยแบรนด์สินค้าที่ได้มาตรฐาน OEM ส่งให้กับโรงงานผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเป็นแบรนด์ได้รับการยอมรับจากลูกค้า
โดย รายได้จากกลุ่มธุรกิจสินค้าชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทนของกลุ่มบริษัทมโนยนต์ เติบโต 7% จากปี 2561 ยอดขายรวมกว่า 6,800 ล้านบาท และในปีนี้ 2563 บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, พม่า, เวียดนาม) เพิ่มมากขึ้น โดยโช้คอัพ TOKICO จะเป็นหนึ่งในสินค้าหลัก ที่จะมีส่วนผลักดันให้บริษัทบรรลุได้ตามเป้าที่วางไว้ เนื่องจาก TOKICO เป็นแบรนด์โช้คอัพอันดับ 1 ที่ส่งให้กับโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศ ซึ่งบริษัทได้นำโช้คอัพ TOKICO เข้ามาทำตลาด Aftermarket เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา และในช่วง 6 ปี ได้ทำตลาดอย่างจริงจัง โดยหลังจากที่ได้ขยายตลาดมาที่ตลาดทดแทน โช้คอัพ TOKICO มียอดขายเติบโตประมาณ 3 เท่า หรือ คิดเป็น 300% ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยในระยะ 6 ปีที่ผ่านมา TOKICO ได้ออกโช้คอัพรุ่นใหม่มาแล้ว 3 Series และออกโช้คอัพเบอร์ใหม่มาแล้วมากกว่า 150 เบอร์ โดยครอบคลุมทุกประเภทการใช้งาน และตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
ด้าน นายนิติ ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม.เอ็น. อินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้จัดจำหน่ายโช้คอัพ TOKICO (โทคิโคะ) ผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันโช้คอัพในตลาด Aftermarket มีทิศทางการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยปัจจัยต่างๆ อาทิ ปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น รอบการบำรุงรักษาของรถ อายุการใช้งานของโช้คอัพ ทำให้เกิดการแข่งขันของแบรนด์โช้คอัพอย่างดุเดือด ดังนั้นทาง TOKICO จึงให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์การขับขี่และคุณภาพของโช้คอัพที่ได้มาตรฐานระดับสากลในราคาที่เหมาะสม สำหรับปี 2563 โช้คอัพ TOKICO จะมีการออกโช้คอัพรุ่นใหม่หลายรุ่น เพื่อรองรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้รถ ทุกประเภทการใช้งาน โดยนอกจากโช้คอัพมาตรฐานติดรถแล้ว ยังเน้นไปในกลุ่ม Series ใหม่ ทั้ง 3 Series ได้แก่ POWER-PLUS SERIES โช้คอัพน้ำมันกระบอกยาว ALPHA-PLUS SERIES โช้คอัพขนาดใหญ่ขึ้นพิเศษชนิดแก๊สและ S-PLUS SERIES โช้คอัพเกรดพิเศษชนิดแก๊สโดยโช้คอัพรุ่นใหม่ที่จะออกนี้ใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่ ได้แก่ Toyota รุ่น ALTIS ปี 2019 / COMMUTER ปี 2019 / CAMRY ปี 2018 / C-HR ปี 2018 / ALPHARD, Honda รุ่น BR-V ปี 2016 / CR-V ปี 2012-2016 / FREED ปี 2013, Mazda รุ่น CX-3 ปี 2015 / CX-5 ปี 2017, Nissan รุ่น Teana ปี 2013 / Caravan E25 ปี 2001-12 / Caravan E26 ปี 2012, Suzuki รุ่น Swift ปี 2018 / Ciaz ปี 2015