บ๊อชในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเทคโนโลยีและบริการชั้นนำของโลก สร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตตามแนวคิด “เทคโนโลยีเพื่อชีวิต” นวัตกรรมต่างๆ จึงต้องพัฒนาไปพร้อมกับความใส่ใจทั้งผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม บ๊อชมุ่งมั่นที่จะให้ในทุกกิจกรรมที่บริษัทสามารถควบคุมหรือดูแลได้โดยตรงทั่วโลก มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2020 หรือ พ.ศ.2563
ความเป็นกลางทางคาร์บอนในที่นี้ ครอบคลุมถึงกระบวนการผลิต การจัดการ และวิจัยต่างๆ บริษัทตระหนักถึงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ก๊าซโซลีน น้ำมันดีเซล น้ำมันให้ความร้อน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน รวมไปถึงก๊าซอุตสาหกรรมทุกประเภทที่ใช้ในกระบวนการต่างๆ อย่างการกลึง นอกจากนี้ยังรวมถึงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทางอ้อมที่เกิดจากการใช้พลังงานไฟฟ้า การทำความร้อนแบบรวมศูนย์เพื่อกระจายไปยังชุมชน และระบบไอน้ำ
แนวทางของบ๊อชในการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนนั้น จะเน้นในเรื่องประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการผลิตพลังงานจากทรัพยากรหมุนเวียนต่างๆ สองกลไกนี้จะเป็นหลักในการช่วยให้บริษัทเดินไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ คือ การประหยัดพลังงานรวม 1.7 เทระวัตต์ และผลิตพลังงานใช้เองจากทรัพยากรหมุนเวียน 400 กิกะวัตต์ ภายในปีค.ศ. 2030 จากงบประมาณสนับสนุน 100 ล้านยูโรที่ฝ่ายบริหารได้อนุมัติสำหรับโครงการระหว่างปีค.ศ. 2018-2030
บ๊อชจะเน้นใช้พลังงานสะอาดตั้งแต่ต้นทาง แหล่งผลิตพลังงานที่ได้จากทรัพยากรหมุนเวียนจึงต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต้องใช้ทรัพยากรที่มั่นใจได้ถึงแหล่งที่มา พร้อมกับมีมาตรการที่ดีด้วย ดังนั้นภายในปี 2030 กลุ่มบ๊อชจึงให้ความสำคัญกับพลังงานรูปแบบใหม่ๆ รวมถึงรูปแบบการทำสัญญาซื้อขายระยะยาวกับนักลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เช่น กังหันลม หรือโซล่าฟาร์ม เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกิจ
นอกจากนี้ ยังมีอีกปัจจัยที่จะทำให้บ๊อชก้าวไปสู่จุดหมายที่วางไว้ได้ คือ การชดเชยด้วยการลดปริมาณคาร์บอน (คาร์บอนเครดิต) ที่เกิดจากกระบวนการเผาไหม้ เช่น การให้ความร้อน หรือการทำความร้อน ทั้งนี้เนื่องจากบางประเทศยังไม่มีกลไกรองรับความเป็นกลางทางคาร์บอน เช่น การจัดซื้อพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทำได้ในปริมาณจำกัด จึงต้องมีการชดเชยปริมาณคาร์บอนเข้ามาแทน