ด้วยเป้าหมายที่แน่วแน่ในการสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป จึงได้ผนึกความแข็งแกร่งระหว่างเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลก เพื่อนำเอาศักยภาพและทรัพยากรของโรงงาน ผลิตและประกอบยานยนต์ทั้ง 31 แห่งใน 15 ประเทศทั่วโลกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้บีเอ็มดับเบิลยูสามารถบริหารงานในทุกมิติบนหลักการแห่งความยั่งยืนได้อย่างโดดเด่นในอุตสาหกรรม ซึ่งนอกจากจะเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุดแล้ว ยังทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย โดยในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา อัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่อการผลิตรถยนต์ 1 คัน ลดลงถึง 39% แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั้งในการพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่อนาคตแห่งยนตรกรรมที่มีความยั่งยืนในระดับโลก
นอกจากวิสัยทัศน์แห่งความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปยังให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับความยั่งยืนในด้านการเติบโตภายในองค์กร ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่มีความแตกต่างและหลากหลาย สนับสนุนให้พนักงานเห็นคุณค่าของการเปิดใจยอมรับความแตกต่าง การเคารพผู้อื่น และการมอบโอกาสที่เท่าเทียม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปเปี่ยมไปด้วยบุคลากรที่มากด้วยความสามารถ และมีแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานความสำเร็จใหม่ ๆ ภายใต้ความมุ่งมั่นที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยมีความพึงพอใจของลูกค้าทั่วโลกเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ได้แสดงถึงการเป็นแบบอย่างในเรื่องของความเท่าเทียมทางเพศ สนับสนุนโอกาสที่เท่าเทียมของผู้หญิงในการทำงาน ซึ่งอัตราส่วนของบุคลากรหญิงในโรงงานที่ระยองคิดเป็นถึง 19% ของพนักงานทั้งหมดในสายการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และ 7% ในสายการประกอบบีเอ็มดับเบิลยู โดยมีคุณวิชญา สถาพงศ์ภักดี ในตำแหน่งสำคัญในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายประกอบมอเตอร์ไซค์ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
มร. อูเว่ ควาส กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย กล่าวว่า “ปี 2563 นี้ เป็นปีที่บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ปีที่ 20 แห่งการเติบโตและเดินหน้าสู่ความสำเร็จในประเทศไทย วิสัยทัศน์ในด้านความยั่งยืนและความหลากหลายของเราล้วนตอกย้ำถึงความสามารถอันโดดเด่นของโรงงานที่จังหวัดระยอง ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในโรงงานประกอบที่มีประสิทธิภาพและรอบด้านที่สุดในเครือข่ายบีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลก และด้วยบีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ส์ 3 อีกสองรุ่นย่อยที่มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับสายการประกอบในประเทศของเรา บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย
จึงมีความสามารถในการประกอบรถทั้งหมด 15 รุ่นสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ถือเป็นการต่อยอดก้าวครั้งใหญ่ที่สำคัญของเราในปีที่ผ่านมา ซึ่งเราได้เปิดตัวโรงงานผลิตแบตเตอรี่แรงดันสูงในประเทศไทย และยังได้ฉลองการประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รวมทั้งหมด 155,000 คัน โดยในจำนวนนี้ เรายังได้ส่งออกกว่า 52,000 คันไปยัง 5 ประเทศในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ ในสายการประกอบที่โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เราคำนึงถึงการลดมลภาวะที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ และได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์กว่า 4,000 ตารางเมตรเพื่อปูรากฐานสู่การลดมลพิษโดยใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่ธุรกิจ