ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ผู้นำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชั่น ได้รับการจัดอันดับ 2 เรื่องสำคัญ ได้แก่ การถูกจัดอันดับให้อยู่ในทำเนียบ 100 องค์กรชั้นนำระดับโลกที่มีการพัฒนายั่งยืนที่สุด ตีพิมพ์โดยนิตยสาร Clean Capitalism โดย Corporate Knights นอกจากนี้ยังได้รับการประเมินผลระดับ “A” จากดัชนีชี้วัดความยั่งยืน (Carbon Disclosure Project (CDP) “A-List” ติดต่อกันเป็นปีที่ 9 โดยการจัดอันดับจากทั้งสองสถาบันดังกล่าวได้มีการประกาศในงานวันเปิดการประชุมเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum หรือ WEF) ในกรุงดาวอส ที่ให้ความใส่ใจในประเด็นการพัฒนาความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับการจัดอันดับอยู่ในทำเนียบ 100 องค์กรชั้นนำระดับโลกที่มีการพัฒนายั่งยืนที่สุดในโลกโดย Corporate Knights ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 ปี โดยเป็นอันดับแรกของอุตสาหกรรม และอยู่ในอันดับที่ 29 จากองค์กรทั้งหมด ซึ่งการจัดอันดับดังกล่าว ได้ประเมินจากองค์กรทั้งหมด 7,500 รายด้วยกัน และทำการคัดเลือกเหลือเพียง 100 ราย บนฐานการพิจารณาตามดัชนีวัดความสำเร็จใน 21 หัวข้อด้วยกัน ครอบคลุมทั้งในเรื่อง การบริหารจัดการทรัพยากร กาบริหารจัดการบุคลากร การบริหารจัดการการเงิน และความโปร่งใสของรายได้ รวมไปถึงประสิทธิภาพของซัพพลายเออร์
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังได้รับการจัดอันดับอยู่ใน CDP “A-List” (Carbon Disclosure Project (CDP) “A-List” ติดต่อกันเป็นปีที่ 9 โดยเป็นดัชนีวัดความยั่งยืนที่สะท้อนความใส่ใจและการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนขององค์กรที่ได้รับการจัดอันดับ และมีเพียง 179 บริษัทเท่านั้นที่ได้รับการจัดให้อยู่ในระดับ A ซึ่งการเปิดเผยคาร์บอนและกระบวนการให้คะแนนของ CDP นั้นถือเป็นมาตรฐานระดับโกลด์ ว่าด้วยความโปร่งใสขององค์กรด้านสิ่งแวดล้อม และยังเป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารด้านการพัฒนาความยั่งยืนสำหรับลูกค้าและนักลงทุน โดยชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังได้รับการยอมรับในการดำเนินการเพื่อหยุดก๊าซเรือนกระจก รวมถึงลดความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มีผลงานโดดเด่นทะลุเป้าหมายการพัฒนาความยั่งยืนเกินที่องค์กรกำหนด
การได้รับการจัดอันดับทั้ง 2 โครงการนี้ สะท้อนถึงบทบาทในการมีส่วนร่วมในเรื่องการสร้างความยั่งยืน ผ่านโครงการ Schneider Sustainability Impact (SSI) ซึ่งเป็นโครงการสร้างผลลัพธ์จากความยั่งยืน และได้มีการเผยแพร่ผลลัพธ์ที่ได้ในทุกไตรมาส โดยเป็นแหล่งข้อมูลที่มีค่าสำหรับนักลงทุน ที่ประเมินความคืบหน้าขององค์กรในเรื่องของความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนอย่างจริงจัง จากดัชนีชี้วัด 21 เรื่องหลักที่ครอบคลุมเรื่องของสภาพภูมิอากาศ เศรษฐกิจหมุนเวียน สุขภาพและความเสมอภาค จริยธรรมและการพัฒนา โดยได้มีดำเนินการต่อเนื่อง และพัฒนาให้ดีขึ้นสำหรับปี 2018 จนถึงปี 2020 อีกทั้งยังได้ยกระดับเป้าหมายสำหรับดัชนีชี้วัดทั้ง 9 หัวข้อให้สูงขึ้นไปอีกในช่วงปลายปี 2019